วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวันสำคัญอีกวันหนึ่งของคนอเมริกัน
ซึ่งนั่นก็คือ วันขอบคุณพระเจ้าหรือ Thanksgiving ซึ่งจัดฉลองกันในวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
หากจะทำความเข้าใจความสำคัญของวันนี้
เราต้องย้อนกลับไปเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ที่คณะนักจาริกแสวงบุญ หรือที่เราเรียกกันว่า
พวก pilgrims นิกายศาสนาบริสุทธิ์ ได้อพยพเดินทางจากประเทศอังกฤษ
เพื่อมาตั้งรกรากที่เมือง Plymouth มลรัฐ Massachusetts
โดยการเข้ามาช่วงแรกนั้น
การใช้ชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องทนอยู่ในอากาศหนาว และขาดแคลนอาหาร
เพราะยังไม่มีความรู้เรื่องการเพาะปลูก
ต่อมาในฤดูใบไม้ร่วงปีรุ่งขึ้น
คศ. 1621 หลังจากที่รอดชีวิตจากความอดอยาก
โรคภัยไข้เจ็บและอากาศหนาวเย็นในดินแดนใหม่มาได้ครบ 1 ปี หลังเก็บเกี่ยวพืชผลแล้ว พวกพิลกริมส์เลยจัดให้มีงานเลี้ยงฉลองขอบคุณพระเจ้า
โดยได้เชิญชาวอินเดียนแดงพื้นเมืองมาร่วมด้วย เนื่องจากว่าชาวอินเดียนแดงเป็นผู้สอนพวกพิลกริมส์
ให้เพาะปลูกข้าวโพดและพืชผลพื้นเมืองอื่นๆ ไว้เป็นอาหารประทังชีวิต
ในการจัดเลี้ยงครั้งนั้น อาหารที่นำมาขึ้นโต๊ะประกอบไปด้วย
ไก่งวงป่า เป็ด ห่าน ปลาค้อดและกวาง
เนื่องด้วยไก่งวงเป็นอาหารมื้อแรกของการเฉลิมฉลองขอบคุณพระเจ้าในวันนั้น
จึงกลายมาเป็นอาหารสัญลักษณ์ของวัน Thanksgiving มาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากไก่งวงแล้ว ปัจจุบันแม่บ้านอเมริกันยังนิยมอบแฮม ทำมันเทศและมันหวานบด ย่างข้าวโพด และอบถั่วเขียว หรือที่เรียกว่า Green
bean casserole ส่วนพวกของหวานก็จะมีพายฟักทอง และพายข้าวโพด
ในช่วงแรกนั้น วันขอบคุณพระเจ้าไม่ได้ถูกจัดให้เป็นวันหยุดที่มีการฉลองกันทั่วประเทศ
จนกระทั่งนาง Sarah Josepha Hale บรรณาธิการนิตยสารสตรี Godey's
Lady's Book รณรงค์ต่อรัฐสภาสหรัฐ
ในปี คศ. 1863 ประธานาธิบดีลินคอล์นเลยประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันหยุดทั่วประเทศสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้
โดยหน่วยงานรัฐบาลจะปิดทำการทั้งในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน
วันนี้ถือได้ว่าเป็นอีกวันหนึ่งที่คนอเมริกันเดินทางท่องเที่ยว
และกลับบ้านมากที่สุดรองมาจากวันคริสต์มาส หากเปรียบไปแล้วก็เหมือนวันสงกรานต์ของไทย
ที่ลูกหลานมักจะไปรวมตัวกันที่บ้านปู่ย่าตายายหรือญาติผู้ใหญ่เพื่อทำอาหารและทานมื้อค่ำด้วยกัน
นอกจากวันนี้จะเป็นวันที่ชาวอเมริกันรำลึกถึงพระเจ้าแล้ว
คนส่วนใหญ่ยังถือเอาวันนี้เป็นวันที่แสดงความเคารพ ขอบคุณผู้ที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือ
หรือมีพระคุณในชีวิต เด็กๆ มักจะทำการ์ดจากโรงเรียนเพื่อขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูพวกเขาเป็นอย่างดี
เจ้านายมักจะพาลูกน้องไปเลี้ยงขอบคุณ หรือมีการเขียนการ์ดแสดงความรู้สึกขอบคุณ
หรือ Thankful ที่ทุกคนต่างช่วยกันทำงาน เทแรงกายแรงใจทำให้งานต่างๆ
สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น