วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตัวอย่างจดหมายเชิญเพื่อใช้ในการขอวีซ่า


June 1, 2011


US Embassy Bangkok  
95 Wireless Road
Bangkok 10330
Thailand


To Whom It May Concern

I am writing to inform you that I wish to invite
Miss Nantaporn Kumyod, Passport No: M 111111 to visit me in the United States of America for 10 days from July 4-14, 2011. If you are able to grant this request, she will travel from Thailand on the 4 of July, 2011 and return to her home in Thailand on the 15 of July, 2011.

During the period, she will be staying at Buford, Georgia 30519 USA. I will take all responsibilities for the house and food during her visit.

Should you require any further details please do not hesitate to contact me at address and cell phone number (770) 111-1111 or E-mail address: daylamc@att.net


With kind regards,


(Mrs. McClincy Dayla)
June 1, 2011

270 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ12 กรกฎาคม 2555 เวลา 22:23

    ขอถามหน่อยค่ะว่าจดหมายเชิญสามารถเขียนตอนไหนก็ได้รึป่าวคะหรือว่าไว้ตอนใกล้ๆยื่นขอวีซ่าค่อยให้เขียนคะ??

    ตอบลบ
  2. ใกล้ๆ ไปทำวีซ่าค่อยเขียนก็ได้คะ ไม่ควรใช้จดหมายเชิญที่เก่าคะ เพราะไม่น่าเชื่อถือ อย่างน้อยหนึ่งเดือนก่อนไปทำวีซ่าเริ่มเขียนได้เลยคะ

    ตอบลบ
  3. จดหมายเชิญจำเปนต้องมีมั้ยคะ สำหรับขอวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกาอ่ะค่ะ คือว่าไปเที่ยวหาเพื่อนแล้วเพื่อนก้อเปนนักเรียนอ่ะค่ะ

    ตอบลบ
  4. มีหรือไม่มีก็ได้คะ ไปแบบท่องเที่ยว ไม่ต้องมีจดหมายเชิญก็ได้คะ

    ตอบลบ
  5. แล้วเราต้องให้เพื่อนเราส่งจดหมายเชิญไปที่ไหนครับ ที่อยู่เราหรือสถานทูต

    ตอบลบ
  6. ถ้าเราจะขอvisaท่องเที่ยว ถ้ามีจดหมาย โอกาศในการได้visa มันจะสูงกว่ามั้ยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จดหมายเชิญเป็นแค่เอกสารประกอบการพิจารณานะคะ ถ้ามีก็ดีคะ ไม่มีก็ไม่เป็นไร บางคนมีจดหมายเชิญ ไม่ผ่านก็มีคะ แต่ถ้ามีเพื่อนที่โน่น ไปพักกับเพื่อน ก็ควรให้เพื่อนทำจดหมายเชิญมาก็ดีคะ สถานทูตเขาจะได้รู้ว่าเราไปเยี่ยมเพื่อน เรามีที่พักเป็นหลักเป็นแหล่งคะ

      โอกาสในการได้วีซ่าขึ้นอยู่กับเอกสารทั้งหมดที่เรายื่นประกอบการสัมภาษณ์ ถ้ามีเอกสารครบ เอกสารถูกต้อง ชัดเจน โอกาสได้ก็สูงคะ และขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยนะคะ นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับการตอบคำถามสัมภาษณ์ว่าเราตอบได้ชัดเจน ตรงประเด็น ตรงไปตรงมา โปร่งใสแค่ไหนนะคะ

      ลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ30 กันยายน 2555 เวลา 05:45

    จำเป็นต้องระบุวันที่แน่นอนเลยรึป่าวคะ แบบไม่ระบุวันได้มั้ย??

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ควรระบุไว้คร่าวๆ คะ เพื่อแสงดให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามีความตั้งใจจะไปแน่นอน ได้วางแผนการเดินทางไว้แล้ว ส่วนเรื่องที่เราจะไปหรือไม่ไปตามวันที่ระบุนัั้น เป็นเรื่องหลังจากที่เราได้รับวีซ่าแล้วคะ ไม่ไปตามวันดังกล่าวก็ไม่เป็นไรคะ

      ลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ30 กันยายน 2555 เวลา 23:02

    พี่สาวเราไปอยู่ที่นู่นในฐานะคู่มั่น แล้วเราจะไปเยี่ยมพี่สาวเรา คนที่ต้องเขียนจดหมายเชิญเราไปเยี่ยมควรจะเป็นพี่สาวเราหรือแฟนเราดีค่ะ พี่เราอยู่ที่ฟอริด้าน่ะค่ะ ถ้าเราแพลนไว้แล้วว่าเราจะไปเดือนสองแต่ถ้าเดือนสองเราติดงานเราเปลี่ยนไปเดือนแปดหลังจากได้วีซ่าเสร็จแล้วจะมีปัญหาไม๊ค่ะ แล้วการขอวีซ่าเราขอได้กี่ปีกี่เดือนกี่วันค่ะ รบกวนด้วยน่ะค่ะ

    Noolek
    ขอบคุณมากค่ะ
    คุณ Nantapornv

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรารู้จัก หรือเคยเจอกับแฟนที่สาวมาก่อนไหมคะ ถ้าไม่เคยเจอกัน ให้พี่สาวเขียนเชิญคะ เพราะมีความสัมพันธ์กันทางเครือญาติ

      วีซ่าส่วนใหญ่ (ถ้าผ่านนะคะ) อย่างต่ำจะได้สามเดือนขึ้นไป บางคนได้หกเดือน บางคนได้ห้าปี หรืออย่างนุ้ยไปขอก็ได้มาสิบปี หมายถึงว่าสิบปีนี้เราไม่ต้องไปทำเรื่องขอวีซ่าอีก อยากไปก็ไปได้เลย

      ส่วนเรื่องที่ว่าจะได้อยู่นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับตรวจคนเข้าเมืองที่อเมริกาคะ ตอนนุ้ยไปเยี่ยมเพื่อน ได้วีซ่ามาสิบปีก็จริง แต่ตม.ให้อยู่แค่สี่เดือนเองคะ

      วันที่ระบุว่าจะเดินทางในจดหมายเชิญ แผนการเดินทาง จดหมายลางาน ควรใกล้เคียงกับวันที่เราจะเดือนทางได้จริงๆ คลาดเคลื่อนได้ไม่เกินเดือนหรือสองเดือนนะคะ

      ลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2555 เวลา 11:33


    คนที่ทำจดหมายเชิญให้เรา จำเป็นต้องมีเอกสารของเขาประกอบด้วยหรือเปล่าค่ะ เช่น มีจดหมายเชิญแล้ว และจะต้องมี สำเนาพาสปอร์ต หรือสำเนาใบขับขี่ ของคนที่ทำจดหมายเชิญ แนบด้วยหรือเปล่าค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่คะ มีจดหมายเชิญ และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ตคะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2555 เวลา 22:28

      ขอบคุณค่ะ มากๆค่ะ

      ลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ11 ตุลาคม 2555 เวลา 03:06

    จดหมายเชิญ จำเป็นต้องเอาตัวจริงยืนที่สถาฑูตหรือด้วยหรือเปล่าค่ะ ถ้าคนที่ทำจดหมายเชิญเขาสแกนจดหมายเชิญมาให้ ทางเมล หรือ ส่งเป็นไฟล์ word มาให้เรา มันจะใช้ได้หรือเปล่า (ถ้าส่งเป็นไฟล์ word จะไม่มีลายเซ็นของเขาค่ะ)แล้วมันสามารถยืนต่อสถานทูตได้หรือเปล่า

    กรุณาช่วยตอบให้ด้วยค่ะ งง มาก
    และขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ที่ตอบคำถาม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นตัวจริงจะน่าเชื่อถือกว่าคะ ควรมีลายเซ็นต์ พร้อมแนบบัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ตคะ ส่งทางจดหมายหรือแฟกซ์ เป็นอีเมลล์นี่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือคะ

      ลบ
  11. สวัสดีพี่สวา... เราจะไปเยี่ยมญาติฝ่ายสามีแล้วจะอาศัยพักอยู่ที่บ้านของแม่สามีประมาณ 3 เดือน ดิฉันจะให้แม่สามีเขียนหนังสือรับรองการให้ที่พัก แล้วทางแม่สามีจะต้องไปเอาเอกสารเขียนจดหมายเชิญจากสถานที่ใดของอเมริกาค่ะ. ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนดิฉันเคยไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศส แล้วสามีใหม่ของแม่ดิฉันไปเอาเอกสารหนังสือรับรองการให้ที่พัก ที่เขตอำเภอที่พวกเขาอยู่ค่ะ แต่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาดิฉันไม่ทราบค่ะ รบกวนพี่สาวชี้แนะบอกแนวทางหน่อยค่ะ

    ตอบลบ
  12. รบกวนอีกเรื่องค่ะ หนังสือรับรองการให้ที่พัก ชื่อภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าอะไรค่ะ เวลาทางนู้นไปติดต่อสอบถามจะได้ง่ายต่อการสอบถาม รบกวบหน่อยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หนังสือเชิญเจ้าบ้านเขียนได้เองเลยคะ ตามตัวอย่างข้างบนคะ จากนั้นแนบบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมจดหมายส่งมาให้เราที่่้บ้านก่อนไปยื่นสถานทูตคะ หากจะให้เจ้าบ้านรับรองทางด้านการเงิน หรือเป็นสปอนเซอร์ด้วย ต้องแนบบัญชีธนาคาร และหนังสือรับรองการทำงานมาด้วยนะคะ

      ลบ
  13. คือจะไปเที่ยวหาเพื่อน ถ้าเรามีจดหมายเชิญแล้ว ต้องเขียนใบรับรองความสัมพันธ์อีกรึป่าวค่ะ??

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช้แค่จดหมายเชิญคะ ให้เพื่อนส่งมาที่บ้านเรา พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคะ จากนั้นเอาไปยื่นที่สถานทูตคะ เขาก็จะถามว่าเป็นอะไรกัน รู้จักกันได้อย่างไร เคยเจอกันกี่ครั้ง เมื่อไหร่ ประมาณนี้คะ

      ลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ5 ธันวาคม 2555 เวลา 14:17

    พอดีแฟนพี่เป็นตำรวจ แต่ตอนนี้กเษียนแล้ว นอกเหนือจากจดหมายเชิญ ยังต้องใช้เอกสารอะไรรับรองอีกบ้างคะ พอดีเขาเป็นสปอนเซอร์ให้ทุกอย่าง คือพี่กำลังคิดว่าเขาเคยรับราชการมาก่อนเอกสารน้อยได้ไหม แล้วโอกาสวีซ่าจะผ่านมีสูงกว่าไหม ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช้บัญชีธนาคาร และจดหมายยืนยันว่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ออกอะไรบ้าง เท่าไหร่ ประมาณนี้คะ

      วีซ่าท่องเที่ยวส่วนใหญ่ดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลักคะ ไม่ค่อยดูของสปอนเซอร์เหมือนวีซ่านักเรียน แต่งงาน หรือคู่หมั้น โอกาสผ่านไม่ผ่านขึ้นกับเอกสาร และการตอบคำถามสัมภาษณ์ หากเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง สัมภาษณ์ตรงประเด็น ตอบคำถาม ตรงไปตรงมา ชัดเจน ก็มีโอกาสผ่านคะ

      นอกจากนี้เขาก็จะดูที่หน้าที่การงานของเราว่ามั่นคงไหม มีเงินหมุนเวียนเข้าออกธนาคาร มีเงินเดือน แน่นอน มั่นคง และเคยไปต่างประเทศมาบ้างไหม ประมาณนี้คะ

      ลบ
  15. ไปตอนเมษายนที่ฮาวายมีอะไน่าเที่ยวบ้างคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มีหลายที่เลยคะ อ่านเพิ่มเติมในนี้นะคะ
      http://travel.thaiza.com/%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2+%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C/85915/

      http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=dharma&month=14-04-2006&group=8&gblog=2

      ลบ
    2. เที่ยวให้สนุกนะคะ

      ลบ
  16. ขอสอบถามหน่อยนะค่ะ เป็นกังวลมากเลยค่ะ พอดีกำลังทำเรื่องไปท่องเที่ยว มีงานมีการทำประจำอยู่แล้วออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการแต่ไม่ได้ระบุเงินเดือนกับวันลา แล้วก็จาะไปกับป้ารับข้าราชการมาเป็น 10ปีแล้วค่ะก็จะออกหนังสือรับรองซึ่งไม่ระบุวันลาเหมือนกันเนื่องจากจะมีวันลาพักผ่อนให้ยูแล้ว ถ้าระบุไปแล้ววีซ่าไม่ผ่านจะเสียสิทธิ์ไปฟรี คือมีญาตฺอยู่ที่นั้นด้วย ก็จะไปพักที่บ้านญาติเราจะออกค่าใช้จ่ายเองต้องมีหนังสือเชิญมั้ยค่ะ ไม่มีได้มั้ย ป้ามีเงินโชว์ประมาณ ล้านกว่าๆๆๆ ส่วนเรามีประมาณ สองแสนอะค่ะมีโอกาสผ่านมั้ยค่ะ (ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ) ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    ตอบลบ
  17. ถ้าเพิ่งลาออกจากงาน วีซ่าจะยากหน่อยนะคะ เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าจะกลับมาที่ไทย ควรระบุเวลาที่แน่ชัดคะ เจ้าหน้าที่จะได้เห็นว่าเรามีกำหนดการแน่นอน ตั้งใจไปท่องเที่ยวจริงๆ ควรมีแผนการท่องเที่ยวที่แน่นอนด้วยคะ เจ้าหน้าที่จะได้มองภาพออกว่าไปกี่วัน ไปทำอะไร มีกิจกรรมอะไรบ้างคะ วีซ่าจะผ่านง่ายขึ้นนะคะ

    ตอบลบ
  18. ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับข้อมูลข้างบน รบกวนสอบถามเป็นข้อมูลค่ะ บังเอิญเคยขอวีซ่ามาครั้่งหนึ่งแล้วประมาณ 1 ปีกว่าค่ะ แต่ไม่ผ่านเพราะเพิ่งย้ายงาน แต่ให้สัมภาษณ์ ว่าแฟนเชิญมา แต่ครั้งนี้ก็จะไปที่เดิมอีก คนเชิญคนเดิมค่ะเป็นแฟน
    ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ว่าจดหมาดต้องเขียนอย่างไรบ้าง....

    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จดหมายเขียนตามข้างต้นเลยคะ จดหมายเชิญไม่ต้องกังวลมากคะ เจ้าหน้าที่ดูประกอบหลังจากที่ดูเอกสารของเราแล้ว วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา เจ้าหหน้าที่ดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลักนะคะ ต้องเตรียมอย่างแน่นหนาเลยคะ ส่วนเอกสารที่ต้องเตรียมเป็นพิเศษคือ จดหมายแนะนำตัวเรา จดหมายลางานที่ระบุตำแหน่งงานแน่ชัด วันลางาน และวันกลับมาทำงาน แผนการเดินทางว่าเราเดินทางโดยสารการบินอะไร แต่ละวันทำกิจกรรมอะไรบ้าง ไปเที่ยวทีไหนบ้าง และจะกลับไทยวันไหน ประมาณนี้เลยคะ

      ลบ
  19. ตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องขอวีซ่าเหมือนกัน กรอกข้อมูลส่วนตัวยังไม่เสร็จแล้ว แต่ก็มีเรื่องอยากถามหลายอย่างเหมือนกันค่ะ เพราะว่าได้ยินมาหลายกระแสแล้วไม่เหมือนกันเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มีอะไรอยากปรึกษา ก็ถามได้ตลอดเลยคะ

      ลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ27 มกราคม 2556 เวลา 13:48

    ขอสอบถามหน่อยนะค่ะ พอดีจะเขียนจดหมายเชิญคนมาเที่ยวที่อเมริกาประมาณ 4 คน เขียนเชิญเป็นใบเดียวเลยได้ไหมค่ะ หรือต้องเขียนเป็นรายบุคคลช่วยหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ทั้งสี่คนมาพร้อมกันหรือเปล่าคะ ถ้ามาพร้อมกัน เดินทางด้วยกัน เขียนใบเดียวได้เลยคะ ในใบนั้นก็ระบุชื่อแต่ละคน พร้อมหมายเลขหนังสือเดินทางคะ

      แต่ถ้าไม่ได้เดินทางพร้อมกัน ต้องเขียนแยกเป็นรายบุคคลคะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ27 มกราคม 2556 เวลา 19:45

      ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

      ลบ
  21. ไม่ระบุชื่อ28 มกราคม 2556 เวลา 06:16

    รบกวนถามหน่อยคะแล้วผู้เขียนหนังสือเชิญต้องเซ็นด้วยมั๊ยคะ ขอบคุณมากคะ

    ตอบลบ
  22. ไม่ระบุชื่อ28 มกราคม 2556 เวลา 06:18

    เซ็นชื่อด้วยมั๊ยคะ ขอโทษทีคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เซ็นชื่อด้วยคะ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนไปกับจดหมายเชิญด้วยนะคะ

      ลบ
  23. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2556 เวลา 13:07

    คือผมเป็นนักศึกษาจะไปเยี่ยมแม่ที่อเมริกาครับ เคยไป work and travel มาแล้วครึ้งนึง ปีนี้ไปสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวมาแต่ไม่ผ่าน ว่าจะไปสมัครอีกรอบ คือ อยากทราบว่าเวลาไปสัมภาษณ์ต้องยื่นเอกสารให้เค้าดูทั้งหมดเลยหรือเปล่าครับหรือว่าต้องรอเค้าขอ คือผมงงๆ แล้วเค้าก็ไม่ขอเอกสารผมดู ผมส่งให้แต่ใบรับรองสภาพนิสิตกับใบทรานสคริปต์แล้วก็โปรไฟล์ของแม่ที่อยู่อเมริกา เค้าบอกว่าผมจะไปสามเดือนแต่ผมไม่ได้บอกว่าจะไปทำไรแค่บอกว่าไปเยี่ยมแม่เค้าเลยไม่ให้ไปเพราะว่าเค้าไม่รู้ว่าผมจะไปทำไรในเวลาสามเดือน ผมจำเป็นต้องทำใบเชิญกับโปรแกรมเที่ยวมั๊ยครับ คือผมยังเรียนอยู่เลย ทำไมเค้าต้องคิดว่าผมจะไม่กลับมาด้วย เอกสารวันนั้นผมก็เตรียมไปเยอะมากทั้งเอกสารของพ่อที่เป็นสปอนเซอร์แล้วก็พวกทะเบียนบ้าน คือมีเอกสารอะไรอีกบ้างที่จำเป็นต้องเตรียมไปอะครับ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอนยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ก็ยื่นทั้งหมดที่เรามีเลยคะ จากนั้นเจ้าหน้าที่เขาก็จะเปิดไล่ๆ ดู อะไรที่เขาไม่ต้องการเขาก็จะคืนมาให้เราคะ

      ขอวีซ่าท่องเที่ยว ควรมีแผนการเดินทางแนบไปด้วยนะคะ เจ้าหน้าที่จะได้มองภาพออกว่าเราเดินทางวันไหนถึง วันไหน ไปเมืองอะไร ไปทำอะไร เที่ยวที่ไหนบ้าง และจะกลับไทยวันไหน

      ควรให้แม่ส่งจดหมายมาด้วยนะคะระบุว่าอยากให้เราไปเยี่ยมที่เมืองไหน กี่วัน และแม่ดูแลเรื่องอะไรบ้าง เช่น ค่าตั๋ว ค่าเดินทาง ที่พัก อาหารต่างๆ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของแม่แนบมากับจดหมาย

      หากให้พ่อเป็นสปอนเซอร์ให้ ก็แนบ Bank Statement, Bank Guarantee, ใบรับรองการทำงานของพ่อ, และบัตรประจำตัวประชาชนคะ หากจะให้ดีควรมีจดหมายจากพ่อเขียนว่าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เราเพื่อเดินทางไปพบแม่ เป็นจำนวนเงินเท่านี้ ในระยะเวลาที่ท่องเที่ยวที่อเมริกา ประมาณนี้นะคะ

      แล้วจะไปขออีกทีวันไหนคะ ขอให้โชคดีนะคะ ได้ผลอย่างไรแล้วบอกด้วยนะคะ

      ลบ
  24. ถ้าขอวีซ่าไปเรียนภาษาคอส 1 ปี ต้องเขียนหนังสือเชิญตามตัวอย่างเลยมั้ยค่ะ ใช้ฉบับเดียวกันได้ใช่มั้ยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อันนี้ใช้สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวคะ วีซ่าเรียนภาษา ไม่ต้องใช้จดหมายเชิญ แต่ใช้จดหมายรับรองจากสถาบัน หรือมหาวิทยาลัยที่เรียนนะคะ หลังจากจ่ายค่าเรียนเสร็จ ทางสถาบันภาษาจะส่งจดหมายให้เราไปยื่นสถานทูตคะ

      ลบ
  25. พอดีลืมบอกว่าเราไปพักกับพี่สาวที่แต่งงานที่นั่นค่ะต้องมีจดหมายรัับรองที่พักมั้ยค่ะ แล้วส่วนมาวีซ่านักเรียนผ่านง่ายมั้ย แล้วเอกสา่รของสปอนเซอร์คือคุณทำงานเป็นลูกจ้างประจำของหน่วยงานรัฐบาลเราต้องแนบเอกสารอะไรของคุณแม่ไปบ้างค่ะ ต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือนคุณแม่มั้ย หรือหนังสือรับรองการทำงานของคุณแม่หรือป่าวค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอกสารของสปอนเซอร์แนบ ใบรับรองการทำงานที่ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการทำงาน เงินเดือน โบนัส สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน Bank Statement Bank Guarantee คะ

      เอกสารรับรองที่พักไม่จำเป็นต้องยื่นคะ ยื่นแค่ i20 จากสถานบันภาษาพอคะ

      ลบ
  26. หวัดดีค่ะ ชื่อกิ๊กนะค่ะ รบกวรถามหน่อยนะค่ะ พอดีว่าตอนนี้กำลังจะเขียนจดหมายเชิญให้คุณพ่อมาเที่ยวอเมริกา แฟนเป็นคนอเมริกากันค่ะ แฟนของกิ๊กจะเป็นคนเขียนจดหมายเชิญ แฟนของกิ๊กจะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าอาหาร ที่พัก และค่าเที่ยวให้พ่อ แต่ว่าแฟนไม่ได้อยากเป็นสปอนเซอร์ ให้พ่อเป็นสปอนเซอร์ให้ตัวเองได้ไหมค่ะ พ่อของกิ๊กเป็นข้าราชกาลค่ะ ที่แฟนของกิ๊กไม่อยากเป็นสปอนเซอร์นั้นเพราะว่าเขาไม่อยากจะส่งพวกข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของเขาไปไทย กลัวมีข้อผิดพลาดและมีปัญหาเกี่ยวกับธนาคารที่นี่ทีหลัง แต่ยังคงออกค่าจ่ายใช้ทุกอย่างให้พ่อ แต่พ่อต้องแสดงตัวเป้นสปอนเซฮร์ให้ตัวเอง เพราะว่าเงินเดือนของพ่อก็สูงอยู่น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เหมือนแบบว่าช่วยๆๆกันออก อ่านแล้วงงไหมค่ะ นี่เขียนยัง งงเลย ช่วยตอบด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  27. กิ๊กนะค่ะ รีบเกินเลยลืมเขีบนคำถาม ว่ากรณีของกิ๊กได้ไหมค่ะ ถ้าจะเขียนจดหมายเชิญ (แต่ในจดหมายเชิญระบุว่าจ่ายค่าตั่ว ค่าอาาหาร ที่พัก ให้พ่อ) เขาจะเรียกว่าเป็นจดหมายเชิญไหมค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีคะ การเป็นสปอนเซอร์หมายถึง เป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าอาหาร และจัดหาที่พัก อำนวยความสะดวกให้นะคะ ถ้าหากแฟนไม่อยากโชว์เอกสารทางการเงิน ก็ให้เขียนแค่จดหมายเชิญ พร้อมแนบบัตรประจำตัวประชาชนมาก็พอคะ ส่วนในจดหมายก็ไม่ต้องระบุว่าเป็นคนออกเงิน หรือค่าใช้จ่าย แต่เชิญให้ไปพักที่บ้านเท่าน้้น

      ส่วนการออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ให้คุณพ่อสปอนเซอร์ตัวเอง โชว์หลักฐานการทำงาน และ Bank Statement Bank Guarantee ของคุณพ่อเองนะคะ

      เวลาตอบคำถามสัมภาษณ์ ก็ให้คุณพ่อบอกว่าออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วยตนเอง แต่ไปพักกับลูกสาว และลูกเขยที่เมืองไหน เป็นเวลากี่วันก็ว่าไปคะ วีซ่าผ่านง่ายกว่าให้คนอื่นออกค่าใช้จ่ายให้คะ เพราะแสดงถึงความมั่นคงทางการเงิน และการงาน ที่สามารถดูแลช่วยเหลือตัวเองได้ระหว่างการเดินทาง ท่องเที่ยว และเป็นหลักประกันว่าจะกลับมาไทยแน่นอน เพราะมีบ้าน มีงาน มีครอบครัวที่ไทย

      ลบ
    2. ขอให้โชคดีนะคะ ได้ผลยังไงแล้วบอกด้วยนะคะ มีอะไรก็ปรึกษาได้ตลอดเลยนะคะ

      ลบ
  28. ถ้าจะไปเที่ยวแล้วเลยแวะเยี่ยมแฟนที่รู้จักกันทางเวปไซด์หาคู่ที่อเมริกา โดยไม่เคยเจอกันเลยสักครั้งแต่ส่งเงินมาให้ แล้วจะพักที่บ้านแฟนต้องเตรียมเอกสารใดบ้างคะ พอดีจะไปช่วงปิดเทอม เมษายน เป็นข้าราชการครูและกำลังเรียนต่อปริญญาโทค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ให้แฟนเขียนจดหมายเชิญ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมานะคะ หากจะให้แฟนออกค่าใช้จ่ายให้ด้วย ให้แนบจดหมายรับรองการทำงาน พร้อมเอกสารทางการเงิน เช่น Bank Statement, Bank Guarantee คะ

      ลบ
    2. อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/12/us-visa.html

      ลบ
  29. ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำแนะนำเป็นมือใหม่หัดขับค่ะตอนนี้งงไปหมด กลัวจะไม่ผ่าน.พอดีว่าแฟนเกษียณแล้ว ถ้าเราเอาเงินที่แฟนส่งมาให้โอนเข้าบัญชีเงินเดือนให้รู้ว่าเรามีเงินใช้จ่ายเองจะดีมั๊ยคะ กลัวไม่ผ่านจริงๆค่ะ แล้วการกรอกDS-160 ถ้ากรอกด้วยตัวเองจะผ่านมั๊ยหรือต้องปรึกษาเอเจนซี่ ,เอกสารทุกอย่างต้องแปลแล้วไปรับรองทั้งหมดมั๊ยคะ พอดีซื้อพิณมาแต่ยังไม่กล้ากรอกเอกสาร กลัวผิดค่ะ ขอความกรุณาอีกสักหลายครั้งนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งสำหรับคนตั้งใจที่จะไปจริงๆ ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. การกรอก DS-160 สามารถทำได้ด้วยตนเองคะ และควรทำด้วยตนเอง จะทำให้วีซ่าผ่านได้ง่ายกว่าให้คนอื่นกรอกให้ เพราะแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามีความเข้าใจ และความพร้อมในการดำเนินการทำวีซ่าด้วยตนเอง แสดงถึงความรับผิดชอบ สามารถดูแล ช่วยเหลือตัวเองได้

      เอกสารทุกอย่างแปลเป็นภาษาอังกฤษ แนบไปกับเอกสารภาษาไทยคะ

      ส่วนเงินในบัญชีก็ให้แฟนโอนมาก็ได้คะ ค่อยๆ ใส่ไปทีละน้อยคะ ไม่ต้องกังวลคะ ถ้าเรามีเอกสารครบ ถูกต้อง ชัดเจน ตอบคำถามได้ดี ชัดเจน ตรงไป ตรงมา วีซ่าผ่านแน่นอนคะ

      สำคัญที่เอกสารรับรองการทำงานคะ ต้องมีแสดง และระบุวันลา วันกลับมาทำงานที่ชัดเจน แน่นอนคะ

      อ่านเพิ่มเติมเรื่องการขอวีซ่าได้ที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/12/us-visa.html

      ลบ
  30. การเขียนแผนการเดินทางไปเที่ยว Baldwyn, มิสซิสซิปปี้ จะเขียนยังไงคะ ถ้าไปช่วงเมษายนปิดเทอม แล้วกลับมาเปิดเทอมค่ะ.ไม่เคยไปต่างประเทศค่ะแล้วจะต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่คะถึงจะผ่าน,ถ้าเราไปเที่ยวแล้วแวะเยี่ยมแฟน พักที่บ้านแฟนตลอดระยะเวลาอยู่ที่โน่น เราจะตอบยังไงคะหรือจะบอกว่าไปเที่ยวอย่างเดียว ออกค่าใช้จ่ายเอง สับสนไปหมดแล้วค่ะ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แผนการเดินทาง ดูตัวอย่างที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_09.html

      ถ้ายังเป็นนักศึกษาอยู่ สามารถใช้บัญชีธนาคารของพ่อ แม่รับรองได้นะคะ แต่ถ้ามีงานทำแล้ว ใช้บัญชีตัวเองนะคะ ให้ธนาคารออก Bank Statement และ Bank Guarantee คะ เงินในบัญชีต้องมีเพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เดินทางระหว่างที่เราอยู่ที่โน่นนะคะ เช่น ไปสิบวัน ต้องมีเงินอย่างน้อยวันละ 100 เหรียญ สิบวันก็ 1000 เหรียญ ประมาณ 30,000 บาท บวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ประมาณ 40,000 บาท นอกจากนี้ต้องมีเงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินอีก ประมาณ 10,000-20,000 บาท รวมๆ แล้วควรมีหนึ่งแสนบาทขึ้นไปนะคะ

      หากจะไปพักบ้านแฟน ควรให้แฟนทำจดหมายเชิญมาด้วยนะคะ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคะ ดูตัวอย่างได้ที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_906.html

      ถ้าไปพักกับแฟนก็บอกว่าไปพักกับแฟน และเที่ยวด้วย ก็ตอบไปตามความจริงคะ มีข้อสงสัยเรื่องการทำวีซ่าอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่คะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/12/us-visa.html

      ลบ
  31. ไม่ระบุชื่อ5 เมษายน 2556 เวลา 05:06

    ผมพัฒน์นะครับอายุ24ปี คือผมรู้จักกับเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ที่ไมอามี่ ตอนนี้เค้าไปอยู่ที่นั้นนานแล้วครับได้ซิคตี้เซ่นเรียบร้อยเป็นอเมริกันครับ
    ผมจะไปท่องเที่ยวหาเพื่อนบ้านคนนี้ หลักฐานของผมคือ
    1.ใบสัญญาจ้างของที่ทำงาน
    2.จดหมายอนุญาติลาพักร้อนจากที่ทำงาน
    3.สเตจเม็นท์ของผม มีแค่แสนนิดๆ
    หลักฐานเพื่อนบ้านผม
    1.us ไอดี
    2.us พาสปอร์ท
    3.จดหมายรับรองงานหรือสัญญาจ้างจากที่ทำงาน
    4.ตั๋ว ไป-กลับ
    5.จดหมายเชิญ
    รบกวนถามว่า
    1.มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมมั้ยครับ
    2.ต้องเอาสเตจเม็นท์ของเพื่อนบ้านรึเปล่าครับ
    3.สเตจเม็นท์ของผมเองรายการเข้าเป็นcashจะมีปัญหาใดๆต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตมั้ยครับ เนื่องจากได้รับเงินเดือนเป็นเงินสด
    4.สำเนาที่เพื่อนบ้านส่งมาทุกอย่างต้องเซ็นชื่อเพื่อนบ้านผมทุกฉบับใช่รึเปล่าครับ
    5.สมัครการขอวีซ่าทางออนไลน์หรือทางสถานทูตเลยครับ
    พัฒน์...ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบดังนี้นะคะ

      1.มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมมั้ยครับ
      ควรทำแผนการเดินทางติดไปด้วยนะคะ สถานทูตจะได้รู้ว่าเราไปทำอะไร ที่ไหน กี่วัน แล้วเดินทางกลับไทยวันไหน มีรายละเอียดให้เขาดู เขาจะได้มองภาพออกคะว่าจุดประสงค์การเดินทางของเราเป็นอย่างไร

      ส่วนตั๋วไปกลับไม่ต้องแสดงก็ได้นะคะ ได้วีซ่าแล้วค่อยซื้อคะ

      2.ต้องเอาสเตจเม็นท์ของเพื่อนบ้านรึเปล่าครับ
      ถ้าเพื่อนไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายให้ ก็ไม่ต้องคะ ใช้ของตัวเองได้เลย วีซ่านผ่านง่ายกว่าคะ

      3.สเตจเม็นท์ของผมเองรายการเข้าเป็นcashจะมีปัญหาใดๆต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตมั้ยครับ เนื่องจากได้รับเงินเดือนเป็นเงินสด
      เอกสารทางการเงินใช้สองอย่างนะคะ Bank Statement ย้อนหลังหกเดือน มีเงินหมุนเวียนเข้าออกบ่อยๆ และอีกอย่างเป็นเอกสารที่ชื่อว่า Bank Guarantee คะ ให้ธนาคารออกให้นะคะ

      4.สำเนาที่เพื่อนบ้านส่งมาทุกอย่างต้องเซ็นชื่อเพื่อนบ้านผมทุกฉบับใช่รึเปล่าครับ
      ใช่คะ เซ็นทุกอย่างคะ เอกสารทุุกชุด ต้องมีทั้งตัวจริง และสำเนานะคะ

      5.สมัครการขอวีซ่าทางออนไลน์หรือทางสถานทูตเลยครับ
      สมัครออนไลน์นะคะ

      หากสงสัยรายละเอียดอย่างอื่นในการทำวีซ่า อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ
      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/12/us-visa.html

      ลบ
    2. อันนี้เป็นรายละเอียด ขั้นตอนในการขอวีซ่านะคะ
      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_30.html

      ลบ
  32. ไม่ระบุชื่อ25 เมษายน 2556 เวลา 22:32

    รบกวนขอคำแนะนำคะ
    เราต้องการขอวีซ่าเพื่อไปเที่ยวและเยี่ยมแฟน(เป็นคนไทยคะ)แฟนเราไปเรียน ถ้าวันนี้ก็ประมาณ 6 เดือนคะ
    เราวางแผนจะไปช่วงเดือนปลายเดือน พ.ย.56 มีตั๋วเครื่องบินไปกลับแล้ว
    เราทำงานรัฐวิสาหกิจประมาณ 3 ปี มีเงินในบัญชีที่สามารถโชว์ได้ประมาณ ล้านต้นๆ (เป็นเงินของพ่อแม่ที่มาฝากชื่อเรา)
    เราเคยไปสัมภาษณ์วีซ่าแล้วโดนปฏิเสธ เนื่องจากไม่สามารถแสดงความผูกพันกับประเทศไทยได้คะ
    เราอยากไปเที่ยวจริงๆ รบกวนขอคำแนะนำคะ
    1.วันที่เราจะไปเที่ยวแฟนเราจะอยู่ที่ อเมริกา ประมาณ 1 ปี เราวางแผนจะไปสัมภาษณ์เดือนหน้า เราควรตอบว่าแฟนเราอยู่มานานเท่าไหร่ยังไงคะ
    2.แฟนเราไปเรียนภาษา เราตอบว่า เค้าไปเรียนภาษา ดูไม่น่าเชื่อถือไหม
    3.เรามีบัญชีที่เป็นชื่อเรามีเงินนอนประมาณล้านต้นๆ และบัญชีเงินเดือนที่หมุนตลอด ตอนนี้มีประมาณห้าหมื่นบาท (คราวที่แล้วที่ไปสัมภาษณ์เราแสดงบัญชีแค่ สี่แสน คะ) เราต้องเอาบัญชีพ่อแม่มาเป็นคนสนับสนุนอีกไหมคะ แล้วถ้าครั้งนี้เราเลือกคนสนับสนุนเป็นพ่อ จะมีปัญหาไหมคะ เนื่องจากครั้งแรกเราเลือกว่าจ่ายค่าใช้จ่ายเอง
    4.เรามีคอนโดพร้อมภาระที่ต้องผ่อนชำระ เราควรแสดงเอกสารยังไงคะ (ใบเสร็จที่จ่ายค่างวด กับ อช.พอไหมคะ)
    5.เราวางแผนจะไปเที่ยว NY และ Philadephia จำเป็นต้องมีโปรแกรมทัวร์แบบชัดเจนเลยไหมคะ วันไหนไปไหนบ้างหรือ คราวๆได้เช่น NY 3 วัน Philadelphia 7 วัน
    6.หลังจากตั๋วที่เราจองไปเมกา เรามีตั๋วเครื่องบินที่จองไว้จะไปเที่ยวกับครอบครอบในประเทศ จะเป็นตัวช่วยแสดงว่าเราผูกพันกับประเทศไทยรึเปล่า
    7.ครั้งแรกที่เราขอวีซ่าเราใช้หนังสือรับรองการทำงานจากฝ่ายบุคคล ถ้าครั้งนี้เราให้หัวหน้าเราออก เพื่อจะได้มีข้อมูลการลาได้ เค้าจะดูไหมว่าเอกสารไม่เหมือนกัน หรือเราควรมีทั้งหนังสือรับรองการทำงานและหนังสือจากหัวหน้าที่ยืนยันการลางานได้
    8.เราไม่แน่ใจว่าตอนสัมภาษณ์กับคนไทยเค้าถามว่าเราอยู่คนเดียวไหม เราตอบว่าใช่ มันเป็นเหตุผลที่แสดงว่าเราไม่ผูกพันกับประเทศไทยรึเปล่า
    7.เราควรมีเอกสารอะไรเพิ่มเติมเพื่อแสดงความผูกพันได้อีกไหมคะ
    รบกวนขอคำแนะนำด้วยคะ อยากได้วีซ่ามากเพราะจองตั๋วไปแล้ว ค่าขอแต่ละครั้งก็หลายพันบาท ถ้าครั้งที่ 2 ขอไม่ได้คงจะไม่ไปแล้ว คงต้องยอมทิ้งตั๋ว
    ขอบคุณคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. 1.วันที่เราจะไปเที่ยวแฟนเราจะอยู่ที่ อเมริกา ประมาณ 1 ปี เราวางแผนจะไปสัมภาษณ์เดือนหน้า เราควรตอบว่าแฟนเราอยู่มานานเท่าไหร่ยังไงคะ

      ตอบไปตามความจริงเลยคะ ให้แฟนเขียนจดหมายแนะนำตัวมาด้วยนะคะว่าเรียนที่ไหน อย่างไร อยู่มานานแค่ไหนแล้ว และจดหมายเชิญมาด้วยนะคะ ดูตัวอย่างการเขียนจดหมายเชิญตามข้างต้นได้เลยคะ พร้อมแนบวีซ่าอเมริกา สำเนาพาสปอตมาด้วยนะคะ

      2.แฟนเราไปเรียนภาษา เราตอบว่า เค้าไปเรียนภาษา ดูไม่น่าเชื่อถือไหม

      น่าเชื่อถือคะ ให้แฟนแนบใบลงทะเบียนเรียนกับสถาบันมาด้วยนะคะ

      3.เรามีบัญชีที่เป็นชื่อเรามีเงินนอนประมาณล้านต้นๆ และบัญชีเงินเดือนที่หมุนตลอด ตอนนี้มีประมาณห้าหมื่นบาท (คราวที่แล้วที่ไปสัมภาษณ์เราแสดงบัญชีแค่ สี่แสน คะ) เราต้องเอาบัญชีพ่อแม่มาเป็นคนสนับสนุนอีกไหมคะ แล้วถ้าครั้งนี้เราเลือกคนสนับสนุนเป็นพ่อ จะมีปัญหาไหมคะ เนื่องจากครั้งแรกเราเลือกว่าจ่ายค่าใช้จ่ายเอง

      จ่ายเองผ่านง่ายก่วามากคะ วีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลัก เพราะถือว่าหากจะเดินทางท่องเที่ยว ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือตัวเอง และมีเงินเก็บพอสมควร หากให้ผู้อื่นออกค่าใช้จ่ายให้ แสดงถึงหลักฐานการทำงานที่ไม่มั่นคง มีผลถึงหลักฐานที่แสดงว่าจะกลับเมืองไทย หากการงานไม่มั่นคง ไม่มีเงินเก็บ อาจละทิ้งงานที่เมืองไทย ไปทำงานที่อเมริกาได้ จะทำให้ผู้ยื่นไม่มีความน่าเชื่อถือได้ แต่หากเป็นนักเรียน ยังไม่มีรายได้ สามารถใช้บัญชีธนาคารของผู้ปกครองได้ ส่วนวีซ่านักเรียน แลกเปลี่ยน เข้าร่วมโครงการ คู่หมั้น แต่งงาน เจ้าหน้าที่ดูบัญชีธนาคารและหลักฐานอื่นๆ ของสปอนเซอร์ประกอบด้วย

      ทางที่ดีที่สุด ใช้บัญชีที่มีเงินเดือนของตัวเองหมุนเวียนตลอดคะ เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ต้องการดูว่าเรามีเงินมากแค่ไหน แต่เขาต้องการเช็คสถานภาพทางการเงินในแต่ละเดือนว่าเรามีเงินเข้ามากน้อยแค่ไหน เก็บมากน้อยแค่ไหน เพียงพอไหมที่จะใช้จ่ายในต่างประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวหรือไม่นะคะ

      เขาดูเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือน กับเงินในบัญชีประกอบกันนะคะ หากมีเงินในบัญชีมากกว่าเงินเดือน ควรแสดงที่มาของรายได้ในทางอื่นด้วย เช่น เงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจอิสระนอกเวลา เงินของขวัญ โบนัสต่างๆ เพราะทางหากเราเอามาใส่เลย เขาก็จะคิดว่าเราจงใจแต่งบัญชี ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ทำให้เครดิตเราเสียไปคะ สถานทางการเงิน และความมั่นคงในการงานของเราจะไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้สถานะที่จะยืนยันว่าเราจะกลับไทยลดความน่าเชื่อถือลงมากคะ หลักๆ แล้วภาระผูกพันที่ไทย เขาจะดูที่หน้าที่การงานคะ ถ้ามั่นคงจริง ยังไงเราก็ต้องกลับมาทำงานอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มั่นคง ทำงานไป เงินเก็บก็ไม่มี หรือมีน้อย เขาก็จะคิดว่าเรามีโอกาสทิ้งงาน ไม่กลับมาไทยได้คะ

      การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      ให้ขอเอกสารทั้ง Bank Statement และ Bank Guarantee นะคะ

      ลบ
    2. 4.เรามีคอนโดพร้อมภาระที่ต้องผ่อนชำระ เราควรแสดงเอกสารยังไงคะ (ใบเสร็จที่จ่ายค่างวด กับ อช.พอไหมคะ)
      อันนี้แสดงหรือไม่แสดงก็ได้นะคะ เจ้าหน้าที่เขาไม่ค่อยดูคะ บางครั้งอาจเป็นผลเสียกับเราด้วยซ้ำ ในกรณีที่แสดงการผ่อนชำระหรือแสดงหนี้สิน เจ้าหน้าที่เขาจะตีได้ว่าเราอาจหนีหนี้ก็เป็นได้คะ หรือหลบไปทำงานประเทศเขาเพื่อให้เงินมาใช้หนี้ ประมาณนี้นะคะ ไม่แสดงจะดีกว่า ไม่มีผลดีอะไรเลยคะ

      5.เราวางแผนจะไปเที่ยว NY และ Philadephia จำเป็นต้องมีโปรแกรมทัวร์แบบชัดเจนเลยไหมคะ วันไหนไปไหนบ้างหรือ คราวๆได้เช่น NY 3 วัน Philadelphia 7 วัน

      มีไว้ดีที่สุดเลยคะ เอกสารตัวนี้ช่วยเราได้เยอะเลยคะ จะแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามีการวางแผนท่องเที่ยว มีความจริงจัง ต้องการไปเที่ยวจริงๆ ทำให้เขามองภาพออกด้วยนะคะว่าเราจะเขาไปทำอะไรที่ประเทศเขา ไปที่ไหน เที่ยวไหน กี่วัน กลับวันไหน ดูตัวอย่างได้ตามนี้นะคะ
      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_09.html

      6.หลังจากตั๋วที่เราจองไปเมกา เรามีตั๋วเครื่องบินที่จองไว้จะไปเที่ยวกับครอบครอบในประเทศ จะเป็นตัวช่วยแสดงว่าเราผูกพันกับประเทศไทยรึเปล่า

      วีซ่าอเมริกา ไม่จำเป็นต้องจองตั๋ว หรือแสดงตั๋วเครื่องบินเลยคะ ไม่มีผลกับการพิจารณาวีซ่า แต่มีผลตอนที่วีซ่าผ่านแล้ว เราต้องแสดงตั๋วไปกลับที่ตรวจคนเข้าเมืองอเมริกาคะ จากนั้นเขาจะพิจารณาให้เราว่า เราสามารถอยู่อเมริกาได้นานแค่ไหนนะคะ

      ดังนั้นการจองตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยวในประเทศจะไม่มีผลกับการขอวีซ่าคะ ไม่จำเป็นต้องแสดงคะ ภาระผูกพันที่ไทย เขาจะดูที่หน้าที่การงาน ความมั่นคงทางการงาน และการเงินของเราเป็นหลักคะ

      7.ครั้งแรกที่เราขอวีซ่าเราใช้หนังสือรับรองการทำงานจากฝ่ายบุคคล ถ้าครั้งนี้เราให้หัวหน้าเราออก เพื่อจะได้มีข้อมูลการลาได้ เค้าจะดูไหมว่าเอกสารไม่เหมือนกัน หรือเราควรมีทั้งหนังสือรับรองการทำงานและหนังสือจากหัวหน้าที่ยืนยันการลางานได้

      ควรมีทั้งจดหมายรับรองการทำงาน และการลางานที่ออกอย่างเป็นทางการจากหน่วยงาน พร้อมตราประทับของหน่วยงานนะคะ

      8.เราไม่แน่ใจว่าตอนสัมภาษณ์กับคนไทยเค้าถามว่าเราอยู่คนเดียวไหม เราตอบว่าใช่ มันเป็นเหตุผลที่แสดงว่าเราไม่ผูกพันกับประเทศไทยรึเปล่า

      ไม่มีผลคะ นุ้ยก็ตอบว่าโสด อยู่คนเดียว ก็ได้มาสิบปีคะ

      7.เราควรมีเอกสารอะไรเพิ่มเติมเพื่อแสดงความผูกพันได้อีกไหมคะ

      จดหมายรับรองการทำงานเป็นสำคัญเลยคะ ระบุวันลา และวันกลับมาทำงานให้แน่ชัดคะ อันนี้ตัวอย่างนะคะ
      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_7026.html

      ลบ
  33. ขออณุญาติสอบถามนะค่ะ
    พอดีจะทำการขอวีซ่าไปอเมริกา เพื่อจะไปเยื่ยมป้าและท่องเที่ยวด้วยค่ะเลยอยากขอคำแนะนำค่ะ
    1.ตอนนี้ทำงานช่วยกิจการของคุณพ่อค่ะเป็นห้างหุ้นส่วนรับเหมาก่อสร้าง เราจะสามารถให้คุณพ่อออกหนังสือรับรองการทำงาน ได้ไหมค่ะ
    2.การจ่ายเงินเดือนของพ่อไม่ได้โอนผ่านธนาคารค่ะ จะให้เป็นเงินสด แบ่งจ่ายค่าผ่อนรถ จะมีบางส่วนที่เหลือเก็บจะใส่ในธนาคารไว้ แบบนี้จะผ่านไหมค่ะ เพราะไม่ได้มีเงินไหลเวียนมากอะไร
    3.ในการไปครั้งนี้คุณลุงแฟนของป้าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเลยค่ะทั่งค่าเครื่องบิน ค่าอยู่ ค่ากิน ระหว่างที่อยู่ที่นู้นทั้งหมดค่ะ เราต้องให้คุณลุงส่งเอกสารอะไรมาบ้างค่ะ
    4.แต่จะพกเงินส่วนตัวไปด้วยนะค่ะประมาณ 50,000 แบบนี้พอจะไปได้ไหมค่ะ
    5.ไปประมาณ 3 อาทิตย์ค่ะ
    6.และแบบนี้หนูยังคงต้องมี Bank Statement ย้อนหลังหกเดือน และ Bank Guarantee ประกอบไปด้วยไหมค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบดังนี้นะคะ

      1.ตอนนี้ทำงานช่วยกิจการของคุณพ่อค่ะเป็นห้างหุ้นส่วนรับเหมาก่อสร้าง เราจะสามารถให้คุณพ่อออกหนังสือรับรองการทำงาน ได้ไหมค่ะ
      ได้คะ ให้คุณพ่อออกหนังสือรับรองให้ พร้อมกับแสดงหลักฐานการประกอบธุรกิจแนบไปด้วยนะคะ

      2.การจ่ายเงินเดือนของพ่อไม่ได้โอนผ่านธนาคารค่ะ จะให้เป็นเงินสด แบ่งจ่ายค่าผ่อนรถ จะมีบางส่วนที่เหลือเก็บจะใส่ในธนาคารไว้ แบบนี้จะผ่านไหมค่ะ เพราะไม่ได้มีเงินไหลเวียนมากอะไร
      ถ้าเพียงพอสำหรับเดินทางท่องเที่ยว ก็ไม่มีปัญหาคะ การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      3.ในการไปครั้งนี้คุณลุงแฟนของป้าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเลยค่ะทั่งค่าเครื่องบิน ค่าอยู่ ค่ากิน ระหว่างที่อยู่ที่นู้นทั้งหมดค่ะ เราต้องให้คุณลุงส่งเอกสารอะไรมาบ้างค่ะ
      เอกสารรับรองการทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จดหมายรับรองว่าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เราทั้งหมด จดหมายเชิญ เอกสารรับรองทางการเงิน ได้แก่ Bank Statement, Bang Guarantee

      4.แต่จะพกเงินส่วนตัวไปด้วยนะค่ะประมาณ 50,000 แบบนี้พอจะไปได้ไหมค่ะ
      อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราไปกี่วัน ทำกิจกรรมอะไรบ้าง เที่ยวไหน โดยสารรถอะไร ถ้าคุณลุงออกค่าที่พัก ค่ากินอยู่ให้ ก็น่าจะเพียงพอนะคะ

      6.และแบบนี้หนูยังคงต้องมี Bank Statement ย้อนหลังหกเดือน และ Bank Guarantee ประกอบไปด้วยไหมค่ะ
      ถ้าคุณลุงออกเงินให้ ของเราก็ไม่ต้องแสดงคะ แต่อันนี้แนะนำไว้นิดหน่อยนะคะ วีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลัก เพราะถือว่าหากจะเดินทางท่องเที่ยว ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือตัวเอง และมีเงินเก็บพอสมควร หากให้ผู้อื่นออกค่าใช้จ่ายให้ แสดงถึงหลักฐานการทำงานที่ไม่มั่นคง มีผลถึงหลักฐานที่แสดงว่าจะกลับเมืองไทย หากการงานไม่มั่นคง ไม่มีเงินเก็บ อาจละทิ้งงานที่เมืองไทย ไปทำงานที่อเมริกาได้ จะทำให้ผู้ยื่นไม่มีความน่าเชื่อถือได้ แต่หากเป็นนักเรียน ยังไม่มีรายได้ สามารถใช้บัญชีธนาคารของผู้ปกครองได้ ส่วนวีซ่านักเรียน แลกเปลี่ยน เข้าร่วมโครงการ คู่หมั้น แต่งงาน เจ้าหน้าที่ดูบัญชีธนาคารและหลักฐานอื่นๆ ของสปอนเซอร์ประกอบด้วย

      ทางที่ดีที่สุด ใช้บัญชีที่มีเงินเดือนของตัวเองหมุนเวียนตลอดคะ เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ต้องการดูว่าเรามีเงินมากแค่ไหน แต่เขาต้องการเช็คสถานภาพทางการเงินในแต่ละเดือนว่าเรามีเงินเข้ามากน้อยแค่ไหน เก็บมากน้อยแค่ไหน เพียงพอไหมที่จะใช้จ่ายในต่างประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวหรือไม่นะคะ

      เขาดูเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือน กับเงินในบัญชีประกอบกันนะคะ หากมีเงินในบัญชีมากกว่าเงินเดือน ควรแสดงที่มาของรายได้ในทางอื่นด้วย เช่น เงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจอิสระนอกเวลา เงินของขวัญ โบนัสต่างๆ เพราะทางหากเราเอามาใส่เลย เขาก็จะคิดว่าเราจงใจแต่งบัญชี ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ทำให้เครดิตเราเสียไปคะ สถานทางการเงิน และความมั่นคงในการงานของเราจะไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้สถานะที่จะยืนยันว่าเราจะกลับไทยลดความน่าเชื่อถือลงมากคะ หลักๆ แล้วภาระผูกพันที่ไทย เขาจะดูที่หน้าที่การงานคะ ถ้ามั่นคงจริง ยังไงเราก็ต้องกลับมาทำงานอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มั่นคง ทำงานไป เงินเก็บก็ไม่มี หรือมีน้อย เขาก็จะคิดว่าเรามีโอกาสทิ้งงาน ไม่กลับมาไทยได้คะ

      ลบ
  34. สวัสดีค่ะ มีคำถามเกี่ยวกับวีซ่าท่องเที่ยว B2
    เรากำลังท้องอยู่อเมาริกา คลอดเดือนตุลาคม อยากทำเรื่องให้แม่ (อายุเกือบ60)มาเยี่ยมหลาน พักกับเรา 1-2 เดือน มีเงินเก็บประมาณ 5,000 ดอลล่า(บัญชีชื่อร่วมกับแฟน) แฟนอเมริกันเป็นสปอร์นเซอร์ให้ เรื่องที่พัก ค่าเดินทางในเมกา และอาหาร มีจม. เชิญแนบเอกสารประกอบ (บัตรไอดีแฟนและbank statement)

    ระยะเวลามาไม่สอดคล้องกับเงินที่มี (100*30หรือ60)+1,500ค่าตั๋ว+1,000เงินฉุกเฉิน = 5,500 (อยู่ 1 เดือน ) หรือ 8,500 (อยู่ 2 เดือน)

    คำถาม: ต้องระบุระยะเวลาในจดหมายเชิญ?

    แม่มีเงินเก็บและฉลากออกสินประมาณ 3-4แสน เป็นแม่บ้าน เก็บค่าเช่าที่ดินนิดหน่อยต่อเดือน พ่อมีร้านขายของชำเล็กๆ จดทะเบีบยการค้า ไม่ได้เอาเงินเข้าบัญชีเลย ได้มาก็ใช้จ่ายไปไม่เดือดร้อน เหลือก็ฝากธนาคาร

    ถาม: เอกสารที่จะแสดงความผูกพันกับประเทศไทยไม่ชัดเจนหรือเปล่า? แม่มีแต่สัญญาเช่า โฉนดบ้าน โฉนดที่ดินที่ให้เช่า และทะเบียนการค้าร้านขายของ แต่ไม่ได้หมุนเงินในบัญชี

    คำถาม: ถ้าแบบนี้ให้พี่ชายเป็นสปอร์นเซอร์ให้แม่คู่กับลูกเขยได้ไหมค่ะ? พี่ชายเขาทำงานดีมั่นคง ทำนาน8ปีแล้ว เงินเดือนดี และเต็มใจออกเงินค่าตั๋วให้ถ้าแม่ต้องการ อีกอย่างสามารถยื่นเอกสารเสริมได้ดูมีน้ำหนักกว่าตัวแม่เองซึ่งเป็นแม่บ้าน

    คำถาม: แล้วเวลากรอกในดีเอส160 ตรง person/entity paying for your trip ควรเป็นใคร
    1.(แม่, ลูกเขย, ลูกชาย)
    2.หรือสามารถ กรอกชื่อร่วมกันได้หมด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ระยะเวลามาไม่สอดคล้องกับเงินที่มี (100*30หรือ60)+1,500ค่าตั๋ว+1,000เงินฉุกเฉิน = 5,500 (อยู่ 1 เดือน ) หรือ 8,500 (อยู่ 2 เดือน)

      คำถาม: ต้องระบุระยะเวลาในจดหมายเชิญ?
      ตอบ: ต้องระบุระยะเวลาในจดหมายเชิญด้วยคะ เอาเงินในบัญชีของคนอื่นสมทบด้วยกันก็ได้คะ แล้วก็ระบุไปในจดหมายว่าใครออกอะไรให้บ้าง เช่น พี่ชายเป็นสปอนเซอร์ออกค่าตั๋วเครื่องบิน เราออกค่าใช้จ่ายกินอยู่ ที่พัก เป็นต้น

      แม่มีเงินเก็บและฉลากออกสินประมาณ 3-4แสน เป็นแม่บ้าน เก็บค่าเช่าที่ดินนิดหน่อยต่อเดือน พ่อมีร้านขายของชำเล็กๆ จดทะเบีบยการค้า ไม่ได้เอาเงินเข้าบัญชีเลย ได้มาก็ใช้จ่ายไปไม่เดือดร้อน เหลือก็ฝากธนาคาร

      ถาม: เอกสารที่จะแสดงความผูกพันกับประเทศไทยไม่ชัดเจนหรือเปล่า? แม่มีแต่สัญญาเช่า โฉนดบ้าน โฉนดที่ดินที่ให้เช่า และทะเบียนการค้าร้านขายของ แต่ไม่ได้หมุนเงินในบัญชี
      ตอบ:เพียงพอคะ เพราะถือว่ามีธุรกิจ และครอบครัวที่ไทย มีความมั่นคงในระดับหนึ่ง ตอนสัมภาษณ์ แสดงทะเบียนสมรส และใบเกิดของลูกๆ ทุกคน พร้อมเอกสารทะเบียนการค้า โฉนดที่ดิน ส่วนเงินเก็บก็สามารถโชว์ฉลากออมสินได้คะ

      คำถาม: ถ้าแบบนี้ให้พี่ชายเป็นสปอร์นเซอร์ให้แม่คู่กับลูกเขยได้ไหมค่ะ? พี่ชายเขาทำงานดีมั่นคง ทำนาน8ปีแล้ว เงินเดือนดี และเต็มใจออกเงินค่าตั๋วให้ถ้าแม่ต้องการ อีกอย่างสามารถยื่นเอกสารเสริมได้ดูมีน้ำหนักกว่าตัวแม่เองซึ่งเป็นแม่บ้าน
      ตอบ:ได้คะ ก็ให้พี่ชายยื่นเอกสารรับรองการทำงาน และเอกสารทางการเงิน Bank Statement and Bank Guarantee พร้อมจดหมายที่แจ้งรายละเอียดว่าออกค่าใช้จ่ายให้แม่นะคะ ก็ระบุไปว่าเราออกอะไรบ้าง เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ระยะเวลาเท่าไหร่คะ

      คำถาม: แล้วเวลากรอกในดีเอส160 ตรง person/entity paying for your trip ควรเป็นใคร
      1.(แม่, ลูกเขย, ลูกชาย)
      2.หรือสามารถ กรอกชื่อร่วมกันได้หมด
      ตอบ: กรอกร่วมกันได้เลยคะ

      ลบ
    2. ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

      คำถาม: คุณแม่เดินทางคนเดียว พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตรงนี้จะถูกมองเป็นจุดด้อยตอนสัมภาษณ์มั๊ยคะ?

      ลบ
  35. สวัสดีครับ คือผมมีเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือ ครับ
    1. ผมทำงานเป็นครูอัตราจ้างมา ประมาณ 4 ปี กว่าๆ แล้ว เงินเดือน 9140 เอง แต่ว่าผมมีคนรู้จักอยู่ที่นู่นครับ คือ รู้จักกันมาประมาณ 6 ปี ละ เค้าเป็นครูที่ปลดเกษียณแล้ว ช่วง 3 ปีหลังมานี้ เค้าจะมา เที่ยวและพักที่บ้านผม ปีละ 2 ครั้ง ทีนี้ เค้าเลยอยากให้ผมไปเที่ยวที่บ้านเค้าบ้าง โดยเค้าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย และเป็นที่พักให้ด้วยทั้งหมด ผมต้องเตรียมเอกสารของตัวเองอะไรบ้าง และผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต้องเตีรยมเอกสารอะไรบ้างครับ
    2. พาสปอร์ตผมเพิ่งทำปีที่แล้ว และเคยไปเที่ยว แค่มาเลเซีย กับ สิงคโปร์ จะพอมีน้ำหนักบ้างมั๊ยคับ
    3.ถ้าผมเป็นเจ้าของที่ดิน ประมาณ 14 ไร่ จะช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้มัียครับ และจำเป็นต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษรึปล่าวคับ
    4.คือผมกะจะไปช่วงปิดเทอมอ่ะครับ ประมาณวันที่ 12-25 ต.ค. 56 นี้ ผมจำเป็นต้องทำหนังสือลา หรือไม่ครับ หรือทำเฉพาะหนังสือรับรองการทำงาน และลงวัน เวลากลับ ตามตัวอย่าง ก็พอครับ และคนเซ็นรับรองต้องเป็น ผอ.ที่โรงเรียน หรือ ต้องเป็นระดับ ผอ.เขต เซ็น ครับ
    ขอบคุณที่สละเวลาตอบนะครับ คือผมก็ยัง งงๆ อยู่ และเป็นกังวล มากครับ
    ขอบคุณอีกครั้งครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบคำถามดังนี้นะคะ

      1. ผมทำงานเป็นครูอัตราจ้างมา ประมาณ 4 ปี กว่าๆ แล้ว เงินเดือน 9140 เอง แต่ว่าผมมีคนรู้จักอยู่ที่นู่นครับ คือ รู้จักกันมาประมาณ 6 ปี ละ เค้าเป็นครูที่ปลดเกษียณแล้ว ช่วง 3 ปีหลังมานี้ เค้าจะมา เที่ยวและพักที่บ้านผม ปีละ 2 ครั้ง ทีนี้ เค้าเลยอยากให้ผมไปเที่ยวที่บ้านเค้าบ้าง โดยเค้าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย และเป็นที่พักให้ด้วยทั้งหมด ผมต้องเตรียมเอกสารของตัวเองอะไรบ้าง และผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต้องเตีรยมเอกสารอะไรบ้างครับ
      คนที่เป็นสปอนเซอร์ต้องขอ Bank Statement และ Bank Guarantee จากธนาคาร พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการทำงานที่ระบุตำแหน่งงาน ระยะเวลาที่ทำงาน เงินเดือน โบนัส และเขียนจดหมายรับรองว่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ โดยออกค่าใช้จ่ายเพื่ออะไร เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ และระยะเวลานานแค่ไหน

      2. พาสปอร์ตผมเพิ่งทำปีที่แล้ว และเคยไปเที่ยว แค่มาเลเซีย กับ สิงคโปร์ จะพอมีน้ำหนักบ้างมั๊ยคับ
      ได้อยู่คะ สบายมาก

      3.ถ้าผมเป็นเจ้าของที่ดิน ประมาณ 14 ไร่ จะช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้มัียครับ และจำเป็นต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษรึปล่าวคับ
      ต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษคะ เป็นหลักฐานที่ดีอย่างหนึ่งคะ แสดงความมั่นคง มีที่มีทาง มีงานเป็นหลักเป็นแหล่งของเราที่ไทย

      4.คือผมกะจะไปช่วงปิดเทอมอ่ะครับ ประมาณวันที่ 12-25 ต.ค. 56 นี้ ผมจำเป็นต้องทำหนังสือลา หรือไม่ครับ หรือทำเฉพาะหนังสือรับรองการทำงาน และลงวัน เวลากลับ ตามตัวอย่าง ก็พอครับ และคนเซ็นรับรองต้องเป็น ผอ.ที่โรงเรียน หรือ ต้องเป็นระดับ ผอ.เขต เซ็น ครับ
      ต้องทำทั้งหนังสือลา และหนังสือรับรองการทำงานคะ ให้ผอ.ที่โรงเรียนเซ็นรับรองคะ ใช้กระดาษที่มีตราของโรงเรียน พร้อมลงตราประทับของโรงเรียนนะคะ

      โชคดีนะคะ ได้ผลยังไงแล้วบอกด้วยนะคะ

      ลบ
  36. ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์จริงๆ เด๋วได้ผลยังไงจะรายงานให้ทราบนะครับ ตื่นเต้นจัง

    ตอบลบ
  37. สวัสดีครับ คือผมมีเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือ ครับ
    ผมจะไปท่องเที่ยวหาญาติ หลักฐานของผมที่ไม่มี
    1.ใบสัญญาจ้างของที่ทำงาน
    2.จดหมายอนุญาติลาพักร้อนจากที่ทำงาน
    ต้องทำไงคับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วตอนนี้ทำงานอะไรอยู่คะ หรือเรียน หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ จะได้ช่วยแนะนำหลักฐานได้ถูกคะ

      ลบ
  38. สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอบคุณคุณนุ้ยที่เขียนบล็อกนี้ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ พอดีว่า ตอนนี้หนูเรียนอยู่ครุศาสตร์ ปี5 (ปีสุดท้าย) จุฬาฯ คิดว่าจะไปอเมริกาเพื่อท่องเที่ยวช่วงเมษายนปีหน้า อยู่ประมาณ 1 เดือน กะว่าจะไปพักกับเพื่อนที่นิวยอร์ก (เพื่อนเรียนภาษาอยู่ที่นั่น) แล้วก็คงบินไปบินมา กะว่าจะไปโอไฮโอ (เคยไปเวิร์คที่นั่น เลยกะกลับไปหาโฮสมัมที่นู่นกะเพื่อนที่นั่น) กะไปเพนซิลวาเนีย (พี่รหัสได้ทุนเรียน ป โท ที่นั่น) กะไปฟลอลิด้า เที่ยวดิสนีแลนด์ แต่ตอนนี้กังวลมากว่าจะขอวีซ่าไม่ผ่าน ยังไงขอความช่วยเหลือคุณนุ้ยด้วยนะคะ

    1.เราควรเตรียมแผนการเดินทางอย่างไรดี เพราะยังไม่มีแพลนแน่นอน แค่คิดไว้เฉยๆว่าจะไป คิดว่าถ้าได้วีซ่าจะเริ่มวางแพลนจริงจัง หนูควรเตรียมแผนการท่องเที่ยวแบบบอกสิ่งทีจะทำเป็นวันๆเลยหรือไม่ค่ะ

    2.คุณพ่อคุณแม่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องมีใบรับรองทะเบียนพาณิชย์หรือไม่ เพราะไม่แน่ใจว่า พ่อแม่มีหรือไม่

    3.ถ้าผลการเรียนเราดี หรืออยู่ในโปรแกรมเกียรตินิยม จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของเค้าว่าเราจะไม่โดดวีซ่าที่นู่นหรือไม่

    4.ถ้าเรามีบัญชีหลายบัญชี ควรเอาบัญชีเราไปแสดงด้วยหรือไม่ เพราะบางบัญชีคุณแม่ฝากเงินเข้าออกให้ กลัวเค้าสงสัยว่าทำไมมีเงินเข้าออกเยอะทั้งที่เป็นนิสิต

    5.ถ้าแพลนจะบินช่วงเมษา ควรขอวีซ่าตั้งแต่ตอนนี้เลย หรือควรเริ่มตอนไหนดีค่ะ

    6.มีอะไรแนะนำสำหรับการขอวีซ่าไหมค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  39. สวัสดีค่ะ อยากขอความช่วยเหลือจากคุณนุ้ยค่ะ ตอนนี้เรียนครุศาสตร์ ปี 5 (ปีสุดท้าย) แพลนว่าจะไปเที่ยวอมเริกาประมาณ 1 เดือนช่วงเดือนเมษายน ปี 57 ประมาณ 1 เดือน ก่อนกลับมารับปริญญาช่วงมิถุนายน กะว่าจะไปหาเพื่อนแล้วก็โฮสมัม แล้วก็เที่ยวหลายๆที่ ที่พักคาดว่าจะพักกับเพื่อนหรือคนรู้จักถ้าเมืองที่ไปมีคนรู้จัก เมืองที่คิดว่าจะไปคือนิวยอร์ก (เพื่อนเรียนภาษาที่นี่) ไปโอไฮโอ (เคยไปเวิร์คเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กะกลับไปหาโฮสมัมและเพื่อนๆที่รู้จักกัน) ไปเพนซิลวาเนีย (พี่รหัสได้ทุนเรียน ป โทที่นั่น) ไปฟลอลิด้า (อันนี้เที่ยวเองไปดิสนีแลนด์) แต่ยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปที่ละกี่วัน แต่กะอยู่ในอเมริกาประมาณ 1 เดือน ไม่ทราบว่า

    1.ถ้าจะเดินทางช่วงเดือนเมษายน ควรเริ่มขอวีซ่าเลยดีไหม

    2.ควรแจ้งที่สถานฑูตว่าเราไปพักกับเพื่อนไหม เพราะบางที่ที่ศึกษามา เค้าบอกว่าไม่ควรบอกว่ามีคนรู้จัก เพราะเค้ากลัวเราจะโดดวีซ่า

    3.บัญชีพ่อ แม่ควรมีเงินเท่าไร เพราคงใช้บัญชีพ่อแม่เป็นสปอนเซอร์ แล้วถ้าเรามีบัญชีของเราหลายบัญชีควรเอาไปโชว์ด้วยไหม เพราะบางบัญชีแม่ฝากในชื่อเรา ทำให้เงินมันดูเยอะเกินแค่เป็นนิสิต กลัวเค้าคิดว่าเราเอาเงินมาจากไหน

    4.ตอนแรกคิดว่าถ้าได้วีซ่าค่อยวางแผนว่าจะไปไหนอย่างละกี่วัน ค่อยแพลนรายละเอียดอีกที หรือว่าเราควรแพลนไปก่อนดีกว่า

    5.ถ้าหนูรียนอยู่ในโปรแกรมเกียรตินิยม มีผลการเรียนดี จะช่วยเรื่องขอวีซ่าไหมค่ะ

    6.มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมไหมค่ะ เพราะหนูก็นึกออกเท่านี้

    ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีคะ นุ้ยตอบคำถามดังนี้นะคะ

      1.ถ้าจะเดินทางช่วงเดือนเมษายน ควรเริ่มขอวีซ่าเลยดีไหม
      ถ้าจะเดินทางเมษายน เดือนมกราคมก็เริ่มทำเรื่องขอวีซ่าได้เลยคะ

      2.ควรแจ้งที่สถานฑูตว่าเราไปพักกับเพื่อนไหม เพราะบางที่ที่ศึกษามา เค้าบอกว่าไม่ควรบอกว่ามีคนรู้จัก เพราะเค้ากลัวเราจะโดดวีซ่า
      ควรบอกไปตามจริงคะ นุ้ยก็ขอวีซ่าโดยบอกว่ามีเพื่อน มีคนรู้จักอยู่ที่โน่น ก็ได้วีซ่ามาสิบปีคะ พวกที่ไม่ผ่าน เพราะเพื่อนหรือญาติที่อยู่อเมริกา โดดวีซ่า อยู่แบบผิดกฏหมาย หรือตัวเราเองไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง เลยทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความกังวัลว่าเราอาจโดดวีซ่าได้คะ แต่ถ้าเรามีเอกสารครบ ถูกต้อง มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเราจะกลับไทยแน่นอน วีซ่าผ่านแบบสบายๆ คะ

      3.บัญชีพ่อ แม่ควรมีเงินเท่าไร เพราคงใช้บัญชีพ่อแม่เป็นสปอนเซอร์ แล้วถ้าเรามีบัญชีของเราหลายบัญชีควรเอาไปโชว์ด้วยไหม เพราะบางบัญชีแม่ฝากในชื่อเรา ทำให้เงินมันดูเยอะเกินแค่เป็นนิสิต กลัวเค้าคิดว่าเราเอาเงินมาจากไหน
      การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      วีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลัก เพราะถือว่าหากจะเดินทางท่องเที่ยว ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือตัวเอง และมีเงินเก็บพอสมควร หากให้ผู้อื่นออกค่าใช้จ่ายให้ แสดงถึงหลักฐานการทำงานที่ไม่มั่นคง มีผลถึงหลักฐานที่แสดงว่าจะกลับเมืองไทย หากการงานไม่มั่นคง ไม่มีเงินเก็บ อาจละทิ้งงานที่เมืองไทย ไปทำงานที่อเมริกาได้ จะทำให้ผู้ยื่นไม่มีความน่าเชื่อถือได้ แต่หากเป็นนักเรียน ยังไม่มีรายได้ สามารถใช้บัญชีธนาคารของผู้ปกครองได้ ส่วนวีซ่านักเรียน แลกเปลี่ยน เข้าร่วมโครงการ คู่หมั้น แต่งงาน เจ้าหน้าที่ดูบัญชีธนาคารและหลักฐานอื่นๆ ของสปอนเซอร์ประกอบด้วย

      ทางที่ดีที่สุด ใช้บัญชีที่มีเงินเดือนของตัวเองหมุนเวียนตลอดคะ เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ต้องการดูว่าเรามีเงินมากแค่ไหน แต่เขาต้องการเช็คสถานภาพทางการเงินในแต่ละเดือนว่าเรามีเงินเข้ามากน้อยแค่ไหน เก็บมากน้อยแค่ไหน เพียงพอไหมที่จะใช้จ่ายในต่างประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวหรือไม่นะคะ

      เขาดูเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือน กับเงินในบัญชีประกอบกันนะคะ หากมีเงินในบัญชีมากกว่าเงินเดือน ควรแสดงที่มาของรายได้ในทางอื่นด้วย เช่น เงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจอิสระนอกเวลา เงินของขวัญ โบนัสต่างๆ เพราะทางหากเราเอามาใส่เลย เขาก็จะคิดว่าเราจงใจแต่งบัญชี ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ทำให้เครดิตเราเสียไปคะ สถานทางการเงิน และความมั่นคงในการงานของเราจะไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้สถานะที่จะยืนยันว่าเราจะกลับไทยลดความน่าเชื่อถือลงมากคะ หลักๆ แล้วภาระผูกพันที่ไทย เขาจะดูที่หน้าที่การงานคะ ถ้ามั่นคงจริง ยังไงเราก็ต้องกลับมาทำงานอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มั่นคง ทำงานไป เงินเก็บก็ไม่มี หรือมีน้อย เขาก็จะคิดว่าเรามีโอกาสทิ้งงาน ไม่กลับมาไทยได้คะ

      แต่ถ้าเป็นนักศึกษาใช้ของพ่อ แม่ได้คะ ไม่มีปัญหา

      4.ตอนแรกคิดว่าถ้าได้วีซ่าค่อยวางแผนว่าจะไปไหนอย่างละกี่วัน ค่อยแพลนรายละเอียดอีกที หรือว่าเราควรแพลนไปก่อนดีกว่า
      ควรมีแผนการเดินทางที่แน่นอนคะ เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่เห็นความตั้งใจของเราว่ามีการวางแผนเดินทาง และตั้งใจจะไปเที่ยวจริงๆ ดูต้วอย่างแผนการเดินทางได้ที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_09.html

      5.ถ้าหนูรียนอยู่ในโปรแกรมเกียรตินิยม มีผลการเรียนดี จะช่วยเรื่องขอวีซ่าไหมค่ะ
      ไม่มีผลคะ มีผลแต่วีซ่านักเรียน แลกเปลี่ยน หรือทุนคะ ไม่มีผลกับวีซ่าท่องเที่ยว

      ลบ
    2. ขอบคุณมากค่ะ คุณนุ้ย ช่วยได้มากจริงๆ ตอนแรกคิดว่าไม่น่ามีอะไร แต่พอเริ่มหาข้อมูล เริ่มพบว่ามีคนโพสตามที่ต่างๆว่าขอยาก เลยทำให้เสียความมั่นใจ กลัวไม่ได้อะคะ ขอบคุณมากค่ะ

      ลบ
  40. สวัสดีคะ ได้อ่านบล็อกของคุณนุ้ย แล้วมีกำลังใจในการขอวีซ่ามากคะ แต่มีเรื่องรบกวนถามนิดนึงคะ
    ส่วนตัวออกงานมาตอนเดือน ก.พ.56 เพื่อออกมาช่วยธุรกิจพี่ชาย โดยมีเงินเดือนให้คะ

    1. แพลนจะไปหาแฟนที่ ATL เดือนต.ค 56 นี้ พอดีแฟนอยู่ในช่วงต่อกรีนการ์ด ยังไม่ได้มาคะ เลยไม่มีหลักฐานรับรอง ถ้าจะให้พี่สาวแฟนที่อยู่ NY มีกรีนการ์ดเรียบร้อยแล้ว เขียนจดหมายเชิญได้มั้ยคะ แต่จิงๆไป ATL

    2. เอกสารทุกอย่างที่ต้องใช้ยื่น ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษหมดใช่มั้ยคะ แล้วถ้าแปลต้องมีรับรองจากที่ไหนรึป่าว รบกวนแนะนำสถาบันแปลให้หน่อยนะคะ

    3. มีบัญชีหมุนเวียนอยู่ 2 บัญชี แต่พึ่งทำบัญชีใหม่ขึ้นมาเพื่อการขอวีซ่า (ซึ่งใช้รับเงินเดือนจากบริษัทพี่ชายด้วย) เมื่อ พ.ค. 56 ที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนเข้าออกพอสมควร เพราะพี่ชายใช้หมุนเงิน Pretty Cash ของบริษัทด้วยคะ (คือพี่ชายให้รับผิดชอบเงินสด และค่าใช้จ่ายของบริษัทคะ) ยังงี้พอจะใช้ได้มั้ยคะ ถ้าเจ้าหน้าที่ถามที่มาจะตอบไปตามจิงได้มั้ยคะ ว่าเป็นเงินและเป็นงานที่เรารับผิดชอบ เพราะยังไงต้องกลับมาช่วยงานพี่ชายแน่นอนคะ

    4. ถ้ามีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม รบกวนเสนอได้เลยนะคะ อยากได้วีซ่า...

    ตอบลบ
  41. ไม่ระบุชื่อ14 กรกฎาคม 2556 เวลา 08:22

    ขอรบกวนเพื่อนช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะคือว่าดิฉันแต่งงานจดทะเบียนชาวอเมริกันเป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน ดิฉันไม่เคยท่องเที่ยวออกนอกประเทศครั้งนี้สามีอยากให้ไปเที่ยวอเมริกาพร้อมลูกสาวของสามีเก่าอายุ 12 ปีค่ะ ดิฉันกลุ่มใจเรื่องเอกสารของดิฉันต้องเตรียมอย่างไรบ้างค่ะ ส่วนของสามีมีเอกสารรับรองค่าใช้จ่ายให้เราสองแม่ลูกแฟนดิฉันมีใบเสียภาษี มีเอกสารรับรองค่าใช้จ่าย มีสมุดบัญชีเงินฝาก ดิฉันจะีมีโอกาสวีซ่าท่องเที่ยวผ่านไหมค่ะส่วนเอกสารของลูกสาวต้องใช้อะไรบ้างค่ะ ดิฉันเคยอ่านบอกว่าต้องใช้สมุดบัญชีเงินฝากดิฉันมีเงินในบัญชีไม่มาก ส่วนบางทีก็ต้องมีบ้านที่ดินที่เป็นชื่อเราที่่อยู่เมืองไทย ดิฉันไม่มีจะทำอย่างไรค่ะ ดิฉ้ันค่าขายในตลาดสดค่ะ จะต้องขอเอกสารรับรองจากทางตลาดหรือเปล่าค่ะแต่ดิฉันกลุ้มใจเรื่องเงินในบัญชี แต่มีเงินเข้าออกแต่เงินคงเหลือไม่มีนี้ซิค่ะคือปัญหา ดิฉันจะยื่นเองหรือว่าต้องใช้บริษัทรับทำวีซ่าค่ะดิฉันเคยสอบถามเขาจะให้ดิฉันจ่ายค่าจัดทำอย่างเดียวไม่เกี่ยวค่าวีซ่า ดิฉันกับลูกบริษัทคิดสามหมื่นกว่าบาท เขาบอกดิฉันขอเอกสารทางการเงิน แล้วเอกสารบ้านที่มีชื่อดิฉันหรือโฉนดที่ดิน บางคนบอกว่าให้สมัครเองมีเปอร์เซ็นผ่านมากกว่าไม่ต้องเสียเงินมากขนาดนั้นแค่เรามีใบรับรองเอกสารสามีครบเราก็มีสิทธิผ่านแล้วจริงหรือเปล่าช่วยดิฉันด้วยน่ะค่ะดิฉันไปท่องเที่ยวแค่ 10 วันเองค่ะเพราะว่าเดือนที่จะไปลูกสาวคงต้องขอลาหยุดโรงเรียนค่ะดิฉันจะขอเอกสารทางโรงเรียนการหยุดค่ะช่วยดิฉันด้วยน่ะค่ะเรื่องเอกสารกลุ้มใจมากเลยค่ะตอนนี้ไม่รู้จะเริ่มส่วนในก่อนเลยค่ะ
    ขอขอบคุณล่วงหน้าน่ะค่ะ (แฟนดิฉันอยู่นรอ์เวย์แล้วทำงานมีบ้านอยู่นอร์เวย์ค่ะส่วนที่จะไปเยียมญาติสามีเขาถือสัญชาติอเมริกันค่ะ)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ทำวีซ่าเองง่ายกว่าคะ ไม่ต้องไปจ้างให้เสียเวลา ไม่มีใครช่วยเราได้ดีเท่ากับตัวเราเองนะคะ เดี๋ยวนุ้ยแนะนำเป็นขั้นตอนให้นะคะ

      เรื่องเงินในบัญชี ถ้าสามีรับรองเป็นสปอนเซอร์ให้ ไม่มีปัญหาคะ เราไม่ต้องโชว์เงินในบัญชีเราคะ โชว์ของสามี ให้ธนาคารออก Bank Statement และ Bank Guarantee ให้นะคะ นอกจากนี้สามีต้องเตรียมเอกสารการถือสัญชาติอเมริกัน ทะเบียนสมรส เอกสารรับรองทางการงาน และเอกสารลางาน พร้อมกันนี้ให้สามีเขียนจดหมายรับรองการเป็นสปอนเซอร์ให้เราด้วยนะคะ ว่าออกค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ออกให้ใคร อะไรบ้าง เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่

      เอกสารทุกชิ้นมีตัวอย่างในเว็บไซต์นี้นะคะ เปิดดูได้ที่ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_30.html

      หากไปเยี่ยมญาติที่อเมริกา ควรให้ญาติส่งหนังสือเชิญมาด้วยนะคะ

      ส่วนตัวเราเอง ต้องเตรียมเอกสารรับรองทางการงานคะ เป็นเอกสารสำคัญมาก ที่แสดงว่าเรามีการงานและการเงินมั่นคงที่ไทย ถ้าทำธุรกิจส่วนตัว ควรมีใบทะเบียนการค้า ใบผู้ประกอบการ เอกสารการจดทะเบียน สัญญาคู่ค้าต่างๆ เป็นต้นคะ

      ส่วนโฉนดที่ดิน หรือบ้าน มีไม่มีก็ได้คะ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับเอกสาารรับรองการทำงาน

      ส่วนลูกเตรียมเอกสาร ใบเกิด เอกสารรับรองการเป็นนักเรียน ขอจากโรงแรียน ให้อาจารย์เซ็นต์รับรองให้นะคะ และจดหมายลา ที่ระบุว่าไปเที่ยวแล้วจะกลับมาเรียนวันไหน อย่างไร

      นอกจากนี้ควรเขียนแผนการเดินทาง และจดหมายแนะนำตัวด้วยนะคะ เจ้าหน้าที่จะได้มองภาพออกว่าเราเป็นใคร ไปทำอะไรที่อเมริกา แล้วจะกลับวันไหนคะ

      เบีืองต้นมีประมาณนี้นะคะ มีอะไรก็ปรึกษาได้ตลอดคะ ทำวีซ่าเองดีกว่าจ้างคะ ไม่ต้องเสียเงินจ้างใครคะ เราทำเองง่ายกว่า วีซ่าอเมริกาไม่ยากเลยคะ ถ้าหลักฐานครบ น่าเชื่อถือ ตอบคำถามรู้เรื่อง ตรงประเด็น ผ่านแน่นอนคะ

      โชคดีนะคะ ขอให้ผ่านคะ

      ลบ
  42. หากไปพักกับเพื่อนแต่ตอนนี้เพื่อนกลับมาประเทศไทยอยู่ ใช้เอกสารอะไรยืนยันได้บ้างคะ แล้วทำธุรกิจส่วนตัวแต่แฟนเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งเรายังไม่ได้แต่งงานกัน ใช้เอกสารอะไรของแฟนยืนยันได้ไหมคะ แต่เราไม่ได้เป็นบริษัท เป็นแบบธุรกิจฟาร์มกุ้งอะคะ แต่เคยลงหนังสือเกี่ยวกับสัตว์น้ำสามารถ้ได้ไหมคะ

    ตอบลบ
  43. ให้เพื่อนเขียนหนังสือเชิญให้ได้เลยคะ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวของเพื่อน ส่วนเรื่องธุรกิจ แสดงทะเบียนการค้าเพื่อยืนยันธุรกิจได้คะ หรือเอกสารสัญญาต่างๆ ของบริษัท พร้อมเอกสารทางการเงินของบริษัทคะ

    ตอบลบ
  44. สวัดดีค่ะ ตอนนี้ เรียนอยู่ปี 3 อยากไปฝึกงานที่อเมริกา ช่วงปิดเทอมนี้ แต่ไม่ได้เข้ารวมโครงการ work and travel คือมีแฟนอยู่ที่แคริฟอเนีย จะออกค่าใช้จ่าย ไห้แต่แฟนก็เป็นนักเรียนเหมือนกัน แล้วจะต้องทำงัยค่ะ ต้องขอวีซ่าอะรัย J1 หรือ B1 ดีค่ะ แล้วอยากไปฝึกงานด้วย ต้องไห้แฟนืหา งานที่โน่นแล้วส่งจดกมายเชิญมาใหม ค่ะ... ช่วยบอกทางที่ดีที่สุดด้วยนะค่ะ ขอบคุน ค่ะ (ทิพย์)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้า B1 เป็นวีซ่าท่องเที่ยว เที่ยวได้อย่างเดียว ห้ามทำงานคะ ถ้า J1 วีซ่านักเรียนแลกเปลี่ยน ทำงานด้วยได้ เที่ยวได้ แต่ต้องมีบริษัทจากทางอเมริการับรองให้ และส่งเอกสารการรับรองมาให้เราเพื่อทำวีซ่าคะ ถ้าอยากฝึกงานด้วยต้องลองหาโครงการไปคะ เช่น Disney Summer Work Experience ไม่มีค่าสมัครโครงการ เสียแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน ไปทำงานที่ดิสนีย์ ได้เที่ยวดิสนีย์ฟรีด้วยนะคะ ลองอ่านละเอียดดูนะคะ ตามนี้เลยคะ

      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/disney-summer-work-experience.html

      ลบ
  45. ทิพย์ )) แต่ถ้าไปกับโครงการเราสารถอยู่กับ แฟนได้ไหม ค่ะ ...คือแฟนอยู่ long beach, California ค่ะ ...ทางโครงการเค้าจะไห้เราเลือกรัฐได้ไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าไปกับ Work and Travel เลือกรัฐได้คะ อยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าของโครงการ Disney Summer Work Experience ทำงานที่ดิสนีย์รีสอร์ท ออลันโด้ ฟลอริด้า และพักบ้านที่ทางโครงการจัดให้เท่านั้นคะ

      ลบ
  46. แล้ว ถ้า เราไห้ แฟน หางานที่โน้น ไห้ ... เราต้องทำงัยบ้างค่ะ ... ทางโน้นเค้าจะรับเราง่ายไหมค่ะ ...
    แล้วถ้า ทางโน้น ออกจดหมายเชิญไปทำงาน ... เราจะมีโอกาศได้วีซ่าไหม ค่ะ ....เพราะเราก็ยังเป็นนักเรียน อยู่ เลย...
    ช่วยหน่อย นะค่ะ ...ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าให้แฟนหาให้ มันจะยากหน่อยนะคะที่เขาจะรับเรา และทำเรื่องให้เรา เพราะเขาต้องทำเรื่องจากทางอเมริกาก่อน เสียค่าใช้จ่ายเยอะมากคะ เขาต้องไปทำเรื่องขออนุญาตจากทางรัฐบาลก่อน และรอนานด้วย ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งสำคัญจริงๆ เขาไม่ค่อยทำคะ

      หากเป็นนักเรียนอยู่ ทางที่ง่ายที่สุด คือ เข้าร่วมโครงการคะ Work and travel, Au pair, Disney เลือกเอาคะ ไม่ยากเลยคะ ได้ทำงาน และได้เที่ยวพร้อมๆ กัน ไปทำงานก่อน เวลาเหลือหลังจากโครงการค่อยไปเยี่ยมแฟนก็ได้คะ หรือให้แฟนมาเยี่ยมก็ได้ ไม่ยากเลยคะ

      ลบ
  47. ไม่ระบุชื่อ1 สิงหาคม 2556 เวลา 00:38

    รบกวนสอบถามหน่อยนะคะ แบบว่าเพื่อนให้ทำหนังสือเชิญเค้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วถ้าเราเขียนหนังสือเชิญเสร็จแล้ว เราจะต้องส่งหนังสือเชิญไปให้เพื่อนหรือว่าเราต้องยื่นที่ไทยค่ะ แล้ว จะต้องยื่น ยังงัย เพราะอ่านในเน็ต เราจะต้องส่งไปให้เพื่อนเพื่อยื่นขอวีซ่า แต่เพื่อนบอกว่าเราจะต้องยื่นในไทย รบกวนช่วยตอบหน่อยค่ะ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะทำขั้นตอนไหนค่ะ เพราะเพื่อนมีวันพักร้อนอยากจะมาเที่ยวไทยค่ะ เพื่อนอยู่ที่อัฟกานิสถาน เค้าอยากจะมาเที่ยวประมาณ 15 วันค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ รบกวนช่วยอธิบายด้วยนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เขียนจดหมายจากไทย แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเรา แล้วส่งไปให้เพื่อนสัมภาษณ์คะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ2 สิงหาคม 2556 เวลา 02:12

      ขอบคุณค่ะ แต่เพื่อนเป็นชาวอัฟกานิสถาน ที่นั่นไม่มีสถานฑูตไทยประจำอัฟกา ที่ใกล้ๆ ก็มีที่ปากีสถาน และดูไบ ค่ะ มันจะลำบากหรือเปล่า เค้าเลยบอกว่า ให้เรายื่นที่สถานฑูตเรา แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเค้าไปเพื่อให้ยื่นเอกสาร เราสามารถทำได้หรือเปล่าคะ หรือว่าจะต้องส่งเอกสาร ให้เค้าไปยื่นอย่างเดียว รบกวนด้วยนะคะ

      ลบ
    3. เดี๋ยวขอหาข้อมูลก่อนนะคะว่าทำได้ไหม ไม่แน่ใจเลยคะ

      ลบ
    4. ไม่ระบุชื่อ3 สิงหาคม 2556 เวลา 01:25

      ขอบคุณค่ะ รบกวนด้วยนะคะ เพราะเพื่อนเค้าอยากจะมาเที่ยวประเทศไทยค่ะ

      ลบ
  48. คือว่าจะไปพักกับน้าที่เป็นซิติเซนอยู่ที่โน่นค่ะ ก็เลยว่าจะให้น้าเขียนเหมือนจดหมายรับรองว่าจะซัพพอตเรื่องที่อยู่กับเราจริง จะต้องบอกเค้ายังไงดีคะ แล้วเขียนเป็นอีเมลได้มั้ยคะ พอดีว่า น้ามาเยี่ยมตาที่เมืองไทยพอดีค่ะตอนนี้อยู่อยู่ด้วยกัน ปลายเดือนเค้าก็จะกลับเมกาแล้ว เลยว่า ถ้าขอวีซ่าผ่านทันก็จะกลับไปเที่ยวพร้อมเค้าเลยจะได้มีเพื่อนเดินทาง รบกวนหน่อยนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ให้น้าเขียนไปในจดหมายเลขคะว่าตอนนี้มาพักผ่อนท่องเที่ยวที่ไทย และอยากจะเชิญเราไปเที่ยวที่อเมริกาด้วย วันไหน อย่างไร จากนั้นแนบสำเนาพาสปอร์ตที่มีตราประทับเข้าไทย สำเนากรีนการ์ด แล้วก็แนบไปกับจดหมายเชิญคะ

      ลบ
  49. ขอบคุณมากๆค่ะ วันศุกร์นี้แล้วคร้า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ได้ผลยังไงแล้วบอกด้วยนะคะ โชคดีคะ

      ลบ
  50. ไม่ระบุชื่อ14 สิงหาคม 2556 เวลา 07:42

    รบกวนสอบถามหน่อยนะค่ะ พอดีจะทำวีซ่าไปอังกฤษ แล้วมีคนรู้จักอยู่ที่อังกฤษ ถ้าจะให้เขาทำจดหมายเชิญเขาจะต้องทำอย่างไรจดหมายสามารถเขียนได้เอง หรือจะต้องไปทำที่ไหนค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดูตัวอย่างและวิธีการทำในเว็บนี้นะคะ อธิบายไว้อย่างละเอียดมากเลยคะ

      http://aphrodite-life-in-england.blogspot.com/2011/09/uk-visa-invitation-letter-forms-for.html

      ลบ
  51. ไม่ระบุชื่อ22 สิงหาคม 2556 เวลา 11:32

    สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามเรื่อง เป็นไปได้ไหมที่สถานทูตจะออกวีซ่าให้กับเพื่อนที่รู้จักกันทาง facebook แต่รู้จักกันมานานมาแล้วแต่ตอนนี้เพื่อนเขามีเวลาว่างที่จะมาเที่ยวหาเราที่ประเทศไทย เพื่อนเป็นคนประเทศแอลจีเรีย เราเขียนจดหมายเชิญเหมือนต้วอย่างช้างบนก็ได้เช่นกันใช่ไหมคะ ส่วนเอกสาร ของเราจะก็แค่บัตรประชาชนอย่างเดียวก็ได้ใช่ไหมคะ พอดีไม่ค่อยได้ฝากเงินเข้าธนาคาร ไม่ค่อยมีเงินในbook bank อย่างงี้จะมีปัญหาอไรไหมคะ
    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อันนี้ต้องลองดูนะคะ ส่วนใหญ่สถานทูตไม่ค่อยอออกวีซ่าให้คนที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนนะคะ ส่วนเอกสารต้องมีเยอะเลยคะ มีหนังสือเชิญ และเอกสารทางการเงินด้วยคะ ในกรณีที่เราเป็นสปอนเซอร์คะ แต่ถ้าไม่ได้เป็น ก็ใช้เอกสารของเพื่อนทั้งหมดคะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ26 สิงหาคม 2556 เวลา 11:35

      ขอบคุณค่ะแล้วจะลองดูนะคะ แล้วเอกสารของเพื่อนี่หมายถึงการที่เขาเอายื่นเองเหรอคะ ไม่ได้เกี่ยวกับเราแล้วใช่ไหมคะ แต่กังวลเรื่องเอกสารทางการเงินของดิฉันน่ะคะ แต่จะลองดูก่อนเพราะตอนนี้เอกสารของเขาก็จะพร้อมแล้ว ขอบคุณมากค่ะ

      ลบ
    3. ไม่ระบุชื่อ29 สิงหาคม 2556 เวลา 09:35

      ขอบคุณมากครับ

      ลบ
  52. ไม่ระบุชื่อ24 สิงหาคม 2556 เวลา 07:27

    รบกวนหน่อยครับเรื่องจดหมายเชิญ พอดีเพื่อนมาอยู่ไทยแต่จะกลับต่างประเทศปีละครั้ง ผมสามารถให้เขาเขียนหนังสือเชิญ
    ได้เลยมั้ยครับ ..พอดีจะไปด้วยอ่ะครับ ...งานดีแต่บัญชีพอประมาณนี้เป็นไรมากมั้ยครับ อิอิ ..ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ให้เขียนหนังสือเชิญได้เลยคะ ส่วนบัญชีนี้จะมากน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราท่องเที่ยวคะ การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ29 สิงหาคม 2556 เวลา 09:37

      ขอบคุณมากครับ

      ลบ
  53. สวัสดีครับ คือผมจะไปเที่ยว หาเพื่อนที่Boston แล้วที่บ้านผมเป็นร้านอาหาร ไม่ได้จดทะเบียนอ่ะไร แต่มีเงินหมุน เป็นเงินสด ไม่ได้อยู่ในบัญชี งานก้อทำร้านกับพ่อแม่ แล้วถ้าทำวีซ่า จะมีโอกาสผ่านไหมครับ ขอบคุณครับ
    แล้วให้เพื่อนส่ง ใบเชิญ จะดีกว่ารึเปล่าครับ

    ตอบลบ
  54. ถ้่ามีใบรับรองการทํางาน วีซ่าจะผ่านง่ายคะ

    ตอบลบ
  55. ไม่ระบุชื่อ11 กันยายน 2556 เวลา 04:07

    รบกวนสอบถามค่ะ ถ้าทำวีซ่าเยี่ยมแฟน ไปประเทศอังกฤษ โดยมีจดหมายเชิญจากแฟน และแฟนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เราต้องมีสเตจเม้นท์และเงินในบัญชีของเราโชว์ด้วยไหมคะ งงมากค่ะ เพราะบางคนก็ใช้บางก็ไม่ใช้ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ามีของแฟนแล้ว ของเราไม่ต้องใช้คะ เพราะถือว่าแฟนรับผิดชอบเรื่องการเงินให้คะ เราใช้แค่จดหมายรับรองการทำงาน และจดหมายลางานก็พอคะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ11 กันยายน 2556 เวลา 16:05

      ขอบคุณมากค่ะ

      ลบ
  56. ไม่ระบุชื่อ12 กันยายน 2556 เวลา 07:51

    รบกวนค่ะ เคยทำวีซ่าเยี่ยมแฟนไปอังกฤษผ่านค่ะ และตอนนี้ไปอังกฤษกลับมาแล้ว อยากทราบว่าถ้าต้องการทำวีซ่าไปอีกครั้ง ต้องเขียนจดหมายเล่าความสัมพันธ์หรือปล่าวคะ และถ้าต้องมี ต้องเขียนเล่าตั้งแต่ต้นที่รู้จักกันหรือว่าเขียนเล่าต่อจากครั้งแรกก็ได้เลยคะ และในกรณีที่ ๑ วีซ่ายังไม่หมดอายุ เหลือ อีก ๒ เดือน คือต้องการจะไป๓เดือน (๒)ถ้าต่อหลังจากวีซ่าหมดอายุแล้ว อันไหนทำง่ายกว่ากันคะ โอกาสได้วีซ่ามีสูงไหมคะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าไปเยี่ยมแฟนอีกครั้ง เขียนจดหมายเล่าตั้งแต่ตอนแรกที่รู้จักกันคะ จากนั้นเล่าว่าเราไปเยี่ยมเขากี่ครั้ง ที่ไหน วันที่เท่าไหร่ และกลับไทยวันไหน แล้วจะไปอีกครั้งวันไหน นานเท่าไหร่ และกลับไทยวันไหนประมาณนี้คะ

      ถ้าจะไปสามเดือนขอใหม่เลยคะ ถ้าครั้งแรกผ่านแล้ว ครั้งที่สองง่ายขึ้นมากๆ คะ

      ลบ
  57. ถ้าเราเป็นคนเขียนจดหมายเชิญให้แฟนมาไทย พอเขียนเสร็จต้องมีการรับรองหนังสือจากที่ไทยมั้ยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เขียนเสร็จส่งให้แฟนได้เลยคะ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านไปกับจดหมายเชิญคะ

      ลบ
  58. ไม่ระบุชื่อ23 กันยายน 2556 เวลา 09:56

    chewin 23 กันยายน 2556
    ผมมีเรื่องสอบถามนิดนะครับ คือผมกับน้องชายมีวีซ่าอเมริกาแล้ว และได้เคยไปท่องเที่ยวอเมริกามาแล้วเมื่อปี 2010 ตอนนี้ผม และ้น้องชาย เราอยากไปเยี่ยมหลานสาว และอยากให้พี่สาวผมไปขอวีซ่าอเมริกาเพื่อไปเยี่ยมลูกสาวเขาด้วย ซึ่งเธอไปทำงานเป็นเลขานุการอยู่ที่มหาวิทยาลัยในฮาวายประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ทางหลานผมเขายินดีทำจดหมายเชิญมาให้พวกเราไปพักกับเขาได้ ( กรณีนี้จดหมายจะทำเชิญเฉพาะผู้เป็นแม่ คือพี่สาวผม เนื่องจากผมและน้องชายมีวีซ่าอเมริกายังเหลืออายุอีก 7 ปี ) ผมอยากทราบว่าสิ่งหลัก ๆ ที่พี่สาวผมต้องเตรียมไว้ในการขอวีซ่ามีอะไรบ้างครับ
    - จดหมายเชิญจากลูกสาวเขา
    - พาสปอตร์
    - สเต็ทเม้นธนาคาร
    - ทะเบียนสมรส ( สามีของพี่สาวเป็นข้าราชการทหาร และปัจจุบันยังรับราชการอยู่ )
    - สำเนาบัตรประชาชนของพี่เขย
    - หลักฐานการขายของผ่าน online ( ebay ) ซึ่งเป็นงานที่เราทำร่วมกันอยู่ในครอบครัว ( เราไ่ม่มีทะเบียนการค้า เพราะไม่ได้เปิดร้านค้า และจดทะเบียน ) แต่รายได้ที่ขายได้ถือว่ามากพอควรในแต่ละเดือน

    ไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมหลักฐานอะไรเพิ่มเติมที่สำคัญนอกเหนือจากนี้อีกหรือเปล่าครับ เพราะพี่สาวผมเขาไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย ลูกสาวเขาเพิ่งเรียนจบปริญญาโทในเืมืองไทย ได้เดินทางไปทำงานในอเมริกา แต่แบบถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ผม น้องชาย เลยอยากให้พี่สาวผมเลยไปเยี่ยมลูกเขา ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเดินทาง และพำนักอยู่ในอเมริกาทางเจ้าตัวเองมีเงินเก็บอยู่บ้าง และลูกสาวเขาออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ และคิดว่าทางพี่เขยผมเขาคงออกค่าใช้จ่ายบางส่วนให้พี่สาวผมด้วย

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขาดแต่เอกสารหลักฐานที่แสดงภาระผูกพันกับไทยคะ เช่น เอกสารรับรองการทำงานที่มั่นคง เอกสารการลางาน เอกสารการลงเรียน เอกสารการถือครองที่ดิน และทรัพย์สินที่ไทย เอกสารการดูแลบุตร ธิดา พ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่ดูแลตัวเองไม่ได้ที่ไทย เป็นต้นคะ เอกสารเหล่านี้สำคัญมากคะ เป็นเอกสารชี้ขาดว่าวีซ่าจะผ่านไม่ผ่าน แค่ทะเบียนสมรสไม่ค่อยหนักแน่นเท่าไหร่คะ ต้องมีหน้าที่การงานมารับรองด้วย เพราะแสดงให้เห็นว่ายังก็กลับมาไทย มาทำงานแน่นอนคะ

      หากให้คนอื่นเป็นสปอนเซอร์ ออกค่าใช้จ่ายให้ คนที่เป็นสปอนเซอร์ต้องขอ Bank Statement และ Bank Guarantee จากธนาคาร พร้อมแนบบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการทำงานที่ระบุตำแหน่งงาน ระยะเวลาที่ทำงาน เงินเดือน โบนัส และเขียนจดหมายรับรองว่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ โดยออกค่าใช้จ่ายเพื่ออะไร เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ และระยะเวลานานแค่ไหน

      ลบ
    2. เอกสารทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ

      ส่วนเอกสารหลักฐานที่แสดงภาระผูกพันกับไทย เลือกเอาอย่างใด อย่างหนึ่ง หรือมีสองอย่างขึ้นไปตามข้างบนที่ให้ไว้นะคะ ไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างคะ ข้างบนยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆ คะ ว่าควรเป็นเอกสารประเภทไหนที่จะแสดงว่าเรามีภาระผูกพันกับไทย

      ส่วน Bank Guarantee ต้องมีประกอบไปกับ Bank Statement คะ เป็นเอกสารที่แสดงว่าเรามียอดเงินสะสมทั้งหมดเท่าไหร่ และเป็นลูกค้าของธนาคารมากี่ปีแล้ว สำคัญไม่น้อยไปกว่า Bank Statement คะ บางครั้งเจ้าหน้าที่ขอดู Bank Guarantee ก่อน Bank Statement คะ

      ส่วนจดหมายการรับรองการออกค่าใช้จ่ายดูตัวอย่างที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/12/sponsorship-letter.html

      ลบ
  59. ขอบคุณมากนะครับที่ตอบคำถาม...แต่ผมมีปัญหาจะถามต่ออีกหน่อยนะครับ คือพี่สาวผมว่าไปเขาไม่ได้ทำงาน เป็นแ่ม่บ้านอย่างเดียว ฉะนั้นใบลางานต่าง ๆ จะไม่สามารถมีได้ ส่วนงานขายของผ่าน online หรือ ebay ที่ผมแจ้งไปเป็นการทำร่วมกันในครอบครัวกันเองเป็นรายได้เสริมซึ่งผมสามารถพิมพ์สำเนาลักษณะงานที่ขาย และ ระบบการเงินให้ทางเ้จ้าหน้าที่สถานฑุตดูประกอบได้ให้เห็นว่าเขามีรายได้เสริมนอกเหนือจากเงินที่แฟนเขาให้ใช้ในแต่ละเดือน ผมงงตรงเอกสารการดูแลบุตร ธิดา พ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่ดูแลตัวเองไม่ได้ที่ไทย กรณีพี่สาวผมทั้งลูกชายเขาอายุจะเกือบ 30 ปีแล้ว จบปริญญาโท ทำงานเป็นวิศกรโรงงาน สำหรับลูกสาว ก็คือคนที่ทางพี่เขาจะไปเยี่ยม ( จบปริญญาโท เดินทางไปทำงานในฮาวาย ซึ่งมี Work permit เรียบร้อย ) ฉะนั้นพี่เขาจะไม่มีบุตรที่จะอยู่ภายใต้การอุปการะอีก แต่ถ้าต้องการหลักฐานความเป็นแม่ลูกกันกับคนที่จะไปเยี่ยม ( สูจิบัตร ) พี่เขามีเรียบร้อย ทุกวันนี้พี่สาวผมเขาอยู่กับพี่เขย 2 คนเท่านั้น เพราะลูก ๆ แยกตัวไปทำงานหมดแล้ว ส่วนญาติพี่น้องที่อยู่ภายใต้การดูแลไม่มี เพราะแม่ของพี่สาวผม คือ แม่ผมด้วย อายุ 87 ปี ได้อยู่บ้านเดียวกับผม และผมเป็นคนดูแลอยู่ ส่วนพ่ออยู่ที่ต่างจังหวัดครับ สำหรับพ่อ แม่ ด้านสามี เสียชีวิตหมดแล้วครับ...สรุปง่าย ๆ คือ เหมือนผู้เป็นแม่จะไปเยี่ยมลูกในอเมริกา แต่แม่ไม่ได้ทำงาน อยู่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว อาจจะมีรายได้เสริมจากการขายของผ่าน online ( ebay ) ในแต่ละเดือนซึ่งเป็นหลักหมื่นอยู่
    ส่วนหลักฐานการครอบครองที่ดิน ไม่มีครับเพราะเขาอยุ่บ้านพี่เขยที่ต่างจังหวัด มีแต่สัญญาผ่อนรถยนต์ที่รถจดทะเบียนในนามพี่สาวผม และเขาจะต้องผ่อนอยู่ทุกเดือน ( มีครับ )
    สำหรับจดหมายรับรองเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการเดินทางของพี่สาว ผมจะให้ทางพี่เขยผมเป็นคนออกให้ได้ ( ถ้าเป็นไปได้ผมอยากขอตัวอย่างจดหมายดังกล่าวหน่อยครับ จะได้พิมพ์ข้อความได้ถูก และต้องออกเป็นภาษาไทย หรือ อังกฤษครับ ) Statement ก็ขอได้ แต่จำเป็นต้องใช้ Bank Gurantee ด้วยเหรอครับ Statement อย่างเดียวได้มั้ยครับ...รบกวนขอคำตอบอีกครั้งนะครับ...เพราะผมจะได้ช่วยพี่เขาเตรียมไว้เนิ่น ๆ
    ( ลืมบอกไป พี่สาวผมเองเขามีเงินฝากสะสมทรัพย์ในบัญชีชื่อเขาเองหลักล้านอยู่ ซึ่งตัวเขาเองสามารถขอ Statement กับทางธนาคารได้เหมือนกันครับ )
    ขอบคุณครับ
    Chewin

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอกสารทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ

      ส่วนเอกสารหลักฐานที่แสดงภาระผูกพันกับไทย เลือกเอาอย่างใด อย่างหนึ่ง หรือมีสองอย่างขึ้นไปตามข้างบนที่ให้ไว้นะคะ ไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างคะ ข้างบนยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆ คะ ว่าควรเป็นเอกสารประเภทไหนที่จะแสดงว่าเรามีภาระผูกพันกับไทย

      ส่วน Bank Guarantee ต้องมีประกอบไปกับ Bank Statement คะ เป็นเอกสารที่แสดงว่าเรามียอดเงินสะสมทั้งหมดเท่าไหร่ และเป็นลูกค้าของธนาคารมากี่ปีแล้ว สำคัญไม่น้อยไปกว่า Bank Statement คะ บางครั้งเจ้าหน้าที่ขอดู Bank Guarantee ก่อน Bank Statement คะ

      ส่วนจดหมายการรับรองการออกค่าใช้จ่ายดูตัวอย่างที่นี่นะคะ http://ready2gointer.blogspot.com/2012/12/sponsorship-letter.html

      ลบ
    2. ขอบคุณมาก ๆ ครับอย่างน้อยก็ทำให้ช่วยเตรียมหลักฐานได้ถูกต้องมากขึ้น เพราะผมยอมรับเหมือนกันว่าสถานฑูตอเมริกาไม่ธรรมดาทีเดียวในการตรวจหลักฐาน นำไปเกิน แต่ครบ ดีกว่าขาด ซึ่งไม่ผ่านแน่นอน พอคุณนันทพรพูดถึง Bank Guarantee ผมเลยไปดูหลักฐานที่ผมเคยใช้สมัยไปขอวีซ่าอเมริกาซึ่งผมสำเนาเก็บไ้ว้หมด ปรากฏว่ามีครับ Bank จะออกมาให้พร้อมกับ Bank Statement เหมือน Bank Guarantee เป็นใบปะหน้ารับรองสถานะที่เราเป็นลูกค้าธนาคาร...ได้ครับ ผมชอบไปนึกถึง Bank Guarantee ที่เขาวางค้ำประกันในการออกสินค้าต่าง ๆ ที่กรมศุลการกร ผมจะได้เตรียมหลักฐานต่าง ๆ เนิ่น ๆ โดยเฉพาะจดหมายรับรองของหลานสาวผมด้วย เพราะมันต้องใช้ตัวจริง เราวางแผนจะไปเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป ผมควรจะให้เขาส่งมาในเดือนมกราคม ซื้อซิมที่ไปรษณีย์ในต้นเดือนมกราคม รวมไปถึงตั๋วเครื่องบินที่ระบุวันไป-กลับแน่นอน น่าจะโอเคมั้ยครับ ผมเข้าใจว่าวันนัดสัมภาษณ์สถานฑูตเราจะยังไม่ทราบจนกว่าจะกรอกข้อมูลใน DS160 ให้ครบ และจะทำเรื่องนัดหมาย Online นั่นล่ะถึงจะทราบวันว่ามีวันว่างได้วันไหน ผมกลัวที่สุดคือการซื้อตั๋วเครื่องบินแต่ได้วันสัมภาษณ์หลังวันตั๋วเครื่องบินระบุไว้ ต้องเลื่อน Fight และวัน ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายพอควรโดยใช่เหตุ ฉะนั้นผมอาจจะจองตั๋วเป็นต้นเดือนมีนาคม แต่เตรียมเรื่องหลักฐานและยื่นสถานฑูตในเดือนมกราคมน่าจะโอเคมั้ยครับ หรือว่าช้าไป...รบกวนอีกครั้งนะครับ...ขอขอบพระคุณมาก ๆ อีกครั้งครับ

      ลบ
    3. - สำหรับหลานสาว ส่งจดหมายเชิญ มาพร้อมกับสัญญาการทำงานที่ทำไว้กับมหาวิทยาลัยคะ สิ้นเดือนธันวาคม หรือต้นเดือนมกราคมนี่เริ่มทำเรื่องได้เลยคะ หรือถ้าจะให้ดีทำเรื่องก่อนเดินทางประมาณสองเดือนคะ กำลังดี
      - ส่วนตั๋วเครื่องบิน ไม่ต้องกังวลคะ วีซ่าผ่านค่อยจองคะ สถานทูตไม่ตรวจตั๋วเครื่องบินคะ แต่ตรวจคนเข้าเมืองที่อเมริกา จะเป็นคนตรวจตั๋วเครื่องบินทั้งไปและกลับ และเป็นคนอนุมัติว่าเราจะได้อยู่อเมริกากี่เดือนคะ
      - ส่วนวันนัดหมาย เราจะยังไม่ทราบจนกว่า ได้กรอกแบบฟอร์ม และทำเรื่องซื้อพิณ นัดหมายออนไลน์คะ ควรทำแต่เนิ่นๆ นะคะ เพราะวันว่างสำหรับสัมภาษณ์หายากคะ บางเดือนเต็มตลอด เพราะมีคนสัมภาษณ์เยอะมากคะ

      ลบ
  60. ขอบคุณในคำตอบครับคุณนันทพร...เยี่ยมมากครับ ดีนะครับที่คุณนันทพรพูดถึงสัญญาการทำงานที่หลานผมทำไว้กับทางมหาวิทยาลัย ทีแรกกะจะให้เขาส่งแค่จดหมายเชิญ และสำเนาพาสปอตร์ ไม่ได้ขอสัญญาการจ้างงานมาเหมือนที่ทางคุณแนะนำ...ผมจะได้ Line ไปบอกให้เขาเตรียมส่งมาพร้อมกันด้วย....อีกนิดนะครับ...จดหมายรับรองการออกค่าใช้จ่าย ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดในตัวอย่างที่ทางคุณส่งมาให้ดู ไม่จำเป็นต้องเป็นสามีใช่มั้ยครับ...พี่ชาย น้องชาย หรือลูก ๆ ก็ได้ ที่ทำงานประจำ มีรายได้แน่นอนทำขึ้นมา และเซ็นชื่อ พร้อม Bank Guarantee , Bank Statemen ของผู้ออกจดหมาย.....รบกวนอีกนิดนะครับ...ถือว่าเป็นการแชร์ความรู้ให้ผู้อื่นได้อ่าน และถ้าตกกรณีเคสเดียวกับผมจะได้เตรียมการได้ถูก ( ผมว่าเยอะนะครับ ไอ้ประเภทแม่จะไปเยี่ยมลูกที่อเมริกา แต่ไม่รู้จะต้องเตรียมหลักฐานอะไรบ้าง โดยเฉพาะแม่ที่ไม่มีงานทำอยู่บ้านเพียงอย่างเดียว )

    ขอบคุณอีกครั้งครับ
    Chewin

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คนที่จะเป็นสปอนเซอร์ไม่จำเป็นต้องเป็นสามีคะ เป็นใครก็ได้คะที่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิด เกี่ยวกับทางสายเลือดกับผู้ยื่นวีซ่า เป็นลูก พี่ชาย หรือน้องชายก็ด้คะ แต่ต้องมีการงานมั่นคง มีรายได้ มีเงินเก็บเพียงพอที่จะออกค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางคะ

      คนที่เป็นสปอนเซอร์ต้องขอ Bank Statement และ Bank Guarantee จากธนาคาร พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือรับรองการทำงานที่ระบุตำแหน่งงาน ระยะเวลาที่ทำงาน เงินเดือน โบนัส

      ให้หลานสาวส่งเอกสารหนังสือเชิญ และสัญญาจ้างมาทางจดหมายนะคะ อย่าส่่งทางอีเมลล์ เพราะจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือคะ

      ลบ
    2. ครับ..ผมคุยกับพี่ชายผมไว้แล้ว ก็ต้องขอบคุณทางคุณนันทพรอีกล่ะที่บอกว่าให้ขอหนังสือรับรองการทำงานของผู้เป็นสปอนเซอร์ด้วย ทีแรกผมคิดว่าใช้แค่จดหมายรับรองการเป็นสปอนเซอร์ที่ทางคุณส่งมาให้เป็นตัวอย่าง, Bank Guarantee , Bank Statement ดีนะครับให้บอกเอาหนังสือรับรองที่ทำงานด้วยจะได้ให้เขาเตรียมขอไว้ช่วงเดือนธันวาคม

      เมื่อวานผมได้บอกหลานผมแล้วว่าขอสัญญาจ้างงานตามที่ทางคุณได้แนะนำให้แนบส่งมาพร้อมจดหมายเชิญาตัวจริง และสำเนาพาสปอตร์ พร้อมรับรอบลายเซ็นต์สด เขาบอกผมว่าสัญญาจ้างงานเขาไม่มีเขามีแต่บัตร EAD card เนื่องจากเขาถือพาสปอตร์แบบ J2 ต่อสัญญาปีต่อปี แต่ไม่สามารถมีสัญญาจ้างงานแบบทั่วไปได้ เห็นเ้จ้าตัวบอกว่าบัตรดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้ว่าบุคคลผู้นี้มีตัวตนจริง ๆ ทำงานในสถานที่อ้างอิงจริง และถูกต้องตามกฏหมายอเมริกา มีการเสียภาษีเงินได้ให้ทางรัฐด้วย ...น่าจะโอเคมั้ยครับ ?

      เมื่อวานผมได้โทรคุยกับเอเยนต์ขายตั๋วเครื่องบิน เขาบอกว่าสามารถ booking เพื่อไปแนบยื่นขอวีซ่าก่อนได้ ถ้าผ่านหรือไม่ผ่านอย่างไรเราจะได้ไม่ต้องเสียเิงินยกเลิกตั๋ว ( แต่ถึงพี่สาวผมไม่ผ่าน ผมและน้องยังคงไปอยู่ดี เพราะพวกเราสองคนไม่มีปัญหาเรื่องวีซ่าแล้ว )

      สรุปว่าสิ่งที่ผมต้องเตรียมไว้ให้พี่สาวผมทั้งหมดเท่าที่ผมจดไว้นะครับ

      -หลักฐานทางลูกสาวเขาทั้งหมด ( จดหมายเชิญ สำเนาพาสปอตร์ และ สำเนาบัตร EAD card ลายเซ็นสดทั้งหมด และส่งตัวจริงมา )
      - พาสปอตร์ของพี่สาวผมเอง
      - Bank Statement และ Bank Guarantee จากธนาคาร ( ของพี่สาวผมเองเขามีเงินฝากส่วนตัวหมุนเวียนใช้อยู่ซึ่งได้มาจากรายได้สริมที่ทำกันในครอบครัว คือ ebay )
      - จดหมายรับรองการเป็นสปอนเซอร์ ( Bank Guarantee , Statement ของผู้เป็นสปอนเซอร์ พร้อมหนังสือรับรองที่ทำงาน )
      - ทะเบียนสมรส ( ไม่ทราบว่าการเซ็นรับรองพี่สาวเขาเ็ซ็นคนเดียว หรือต้องให้สามีเขารับรอด้วยครับ ? )
      - สำเนาบัตรประชาชนของพี่เขย ( พร้อมรับรองสำเนาลายเซ็นสด ) ไม่แน่ใจว่าอันนี้จำเป็นต้องใช้หรือเปล่าครับ ?
      - หลักฐานการขายของผ่าน online ( ebay ) ซึ่งเป็นงานที่เราทำร่วมกันอยู่ในครอบครัว และถือเป็นที่มาของรายได้เสริมของตัวพี่สาวผมเองในแต่ละเดือน
      - สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งมีภาระผูกพันธ์ที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดือนซึ่งยังต้องผ่อนอีก 4 ปี ( เป็นชื่อของพี่สาว
      เลยครับ )
      - Booking ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ( เตรียมเผื่อไว้ )

      นี่คือที่ผมคิด และจดไว้ทั้งหมด ตามรายละเอียดต่าง ๆ ที่ทางคุณนันทพรบอกผมไว้ด้วยความกรุณายิ่ง และจากประสบการณ์ในการขอซีซ่าอเมริกาของผมเองในบางส่วน ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง และต้องเพิ่มเติมอีกบอกผมหน่อยนะครับ ผมอยากให้พี่เขาไปพบลูกเขาจริง ๆ เพราะตั้งแต่ลูกสาวเขาเรียนจบโทเมื่อต้นปีนี้ก็ต้องจากเมืองไทยไปทำงานต่างประเทศเพื่อตามไปอยู่กับสามีเขาที่ได้ทุนเรียนต่อในฮาวาย และเจ้าตัวเองก็สามารถขอ Work Permit และหางานทำถูกต้องทุกอย่างได้ ผมเองและน้องชายจะได้ไปเยี่ยมหลาน และถือโอกาสไปดู และท่องเที่ยวในเมืองฮาวายด้วย ถือว่าเป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงสุดในอเมริกา เพราะเป็นเกาะถ้าผมจำไม่ผิด

      ขอบคุณครับ
      Chewin

      ลบ
    3. - EAD card ใช้ได้เลยคะ
      - ทะเบียนสมรส ทั้งสามี ภรรยา ต้องมีลายเซ็นต์ด้วยกัน
      - สำเนาบัตรประชาชนของพี่เขยต้องใช้ด้วยคะ
      - เตรียมใบเกิดของลูกที่เชิญไปด้วยก็ดีคะ บางทีเจอเจ้าหน้าที่ที่เรื่องมาก จุกจิก เขาก็จะขอดูคะ
      - เอกสารค่อนข้างพร้อมแล้วนะคะ เหลือแต่เตรียมตัวตอบคำถามสัมภาษณ์คะ ก็ลองซ้อมกันก่อนนะคะ พอไปถึงจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก
      - ตอนกรอก DS 160 ก็อย่าลืมกรอกชื่อคนที่เดินทางไปด้วยนะคะ ถ้าเดินทางกันหลายๆ คน ไปกับคนที่มีวีซ่าแล้ว เคยไปอเมริกาแล้วกลับมาตรงเวลา จะช่วยให้มีโอกาสผ่านวีซ่าได้มากกว่าเดินทางคนเดียวคะ
      - ตัวผู้ยื่นเอง ต้องเตรียมบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และพาสปอร์ตด้วยนะคะ
      - เรื่องรูปถ่ายก็สำคัญนะคะ บางคนไม่ผ่าน เพราะรูปถ่าย ไม่เห็นใบหูทั้งสองข้าง เลือกร้านถ่ายรูปดีๆ คะ ที่เขามีประสบการณ์ ถ่ายดีๆ หน่อยคะ คือ ต้องเห็นใบหูทั้งสองข้าง และเห็นรูปหน้าทั้งหมด เจ้าหน้าที่เขากลัวเรื่องการปลอมแปลงรูปถ่ายคะ เขาจะเคร่งครัดเรื่องนี้เป็นพิเศษ หลายคนตกม้าตายคะ รูปถ่ายไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ให้ไปถ่ายใหม่ แล้วค่อยมาสัมภาษณ์
      - ฮาวายค่าครองชีพสูงมากคะ แต่ก็สวยมากจริงๆ ไปทีก็คุ้มคะ

      ขอให้โชคดีนะคะ ได้ผลยังไงรายงานด้วยนะคะ มีอะไรก็ปรึกษาได้ตลอดคะ

      ลบ
    4. ไม่มีคำพูดไหนที่จะบอกได้ว่า ยอดเยี่ยมครับ...ขอบคุณมากกๆๆๆ ครับ เพราะตอนผมขอวีซ่าอเมริกาผมจะดูจากคนที่แชร์ประสบการณ์นี่ล่ะครับช่วยได้เยอะ...ตอนนั้นหลานผมยังอยู่เมืองไทยให้เขากรอก DS160 ให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ถามจริง ๆ ว่าให้ใครกรอก ดีนะที่ไม่โกหกเขา ...ถือเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ของผมน่ะไม่มีปัญหาเพราะเคยไปมาแล้วเมืื่อ 16 ปีที่แล้ว เพียงแต่วีซ่าขาดอายุไปแล้ว สัมภาษณ์แค่ประมาณ 5 นาทีก็ผ่าน แต่น้องชายผมที่ไปขอด้วยกันนี่สิเรื่องใหญ่ เพราะเขาลาออกจากงานที่ทำมาแล้ว และมาทำงานขายของ online ebay ร่วมกันในครอบครัว ไม่มี website เป็นของเราเอง แต่มีฝากรูปงานที่ขายทั้งหมดไว้ที่ Multiply ไว้ และน้องคนนี้เขาเตรียมการไว้ดี จัดแจงหลักฐานทุกอย่างไว้พร้อม ทั้งเรื่องลักษณะงานที่ขาย ลักษณะเงินเข้า-ออก รวมไปถึงหลักฐานต่าง ๆ ที่ทางสถานฑูตจะเรียกดูได้ และตอนนั้นเขาเพิ่งไปมาเลเซียประเทศแรกเท่านั้น คนสัมภาษณ์เป็นฝรั่งแต่พูดไทยได้ เห็นน้องเขาบอกสัมภาษณ์ประมาณเกือบ 20 นาที ไอ้ผมไปยืนลุ้นอยู่หน้าไปรษณีย์ที่จ่ายค่าส่งวีซ่าแล้ว เพราะทีแรกคิดว่าไป 2 คนพี่น้องที่นามสกุลเหมือนกันจะสัมภาษณ์ร่วมกันได้ พอเอาเข้าจริงเขาเรียกเข้าไปคุยทีละคน พอของผมผ่านเธอไล่ให้ไปจ่ายค่าส่งวีซ่าทันที และเรียกน้องผมเ้ข้าไปคุยโดยผมไม่มีสิทธิ์ไปยืนช่วยให้ข้อมู่ลอะไรทั้งสิ้น....แต่สุดท้ายน้องเขาก็ได้ เห็นเขาเล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่เน้นมาก ๆ เรื่องที่มาที่ไปของเงินไ้ด้ในแต่ละเดือนว่าเอามาจากไหนอย่างไร ทำอะไร ถามย้ำไป ย้ำมา ดีว่าน้องคนนี้เขาเก่ง เขาเคยทำงานในบริษัทชั้นนำมาร่วม 20 ปี เลยไม่ค่อยประหม่า และพยายามอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟัง จนสุดท้ายเขาก็ถามว่าแม่ของคุณอยู่กับใครทุกวันนี้ น้องเขาบอกว่าอยู่บ้านเดียวกับเขา และเขาดูแลอยู่ ( ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ได้เตรียมหลักฐานอะไรไว้เลย ) เจ้าหน้าที่ยังถามอีกว่าเดินทางไปกับใคร น้องเขาบอกว่าไปกับพี่ชาย คือผมคนที่คุณสัมภาษณ์ผ่านไปเมื่อซักครู่ ตอนนั้นตั๋วเครื่องบินอะไรต่อมิอะไรซื้อไว้หมด จ่ายเงินแล้วด้วย ซึ่งเราก็เอาไปให้เจ้าหน้าที่ดูเป็นหลักฐาน...เรียกว่าเล่นเอาน้องผมเหงื่อตกน่ะ....ดีว่าผ่าน...และมาลุ้นที่บ้านว่าได้กี่ปี สุดท้ายได้ 10 ปี ทั้งคู่เหมือนกัน...ผมเลยมาวิเคราะห์คร่าว ๆว่า สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ อย่าโกหก...มั่นใจตัวเอง...หลักฐานครบ...และแสดงให้เขาเห็นว่าเราไป และ กลับ แน่นอน...ผ่านครับ อีกนิด ดวงด้วย

      - ใช่ ๆ ผมลืมไปเลยเรื่องสูจิบัตรของหลาน เตรียมไว้แล้วครับ รวมทั้งใบเปลี่ยนชื่ออะไรทุกอย่างด้วย
      - ครับ DS160 ต้องบอกอยู่แล้วว่าผม และน้องร่วมเดินทางด้วย ซึ่งเรา 2 คนไปและกลับตามเวลาที่แสดงไว้ในตั๋วทุกอย่าง ตอนนั้นผมไป SFO เจ้าหน้าที่ให้อยู่ได้ถึง 4 เดือนครับ แต่เรายึดวันเวลาตามหน้าตั๋วเครื่องบินทุกอย่าง
      - เรื่องอื่น ๆ ที่ทางคุณนันทพรแนะนำโอเคเลยครับ...ผมพอมีประสบการณ์ และตัวอย่างอยู่บ้างแล้ว

      ผ่าน หรือไม่ผ่านอย่างไร จะแจ้งให้ทราบแน่นอนครับ...ยัยหลานสาวผมก็เขียน Line มาคุยกับผมว่า ผ่านสิ ผ่านสิ หลักฐานขนาดนั้นแล้ว...ไม่รู้จะว่าไงแล้วล่ะถ้าไม่ผ่าน...ผมเลยบอกไปว่าตอนนี้อยู่ที่ตัวคนสัมภาษณ์แล้ว ว่าจะให้เจ้าหน้าที่เชื่อถือได้แค่ไหน...

      ขอบคุณอีกครั้งครับ...ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์คนที่ตกสภาวะเดียวกับพี่สาวผมจะได้อ่านเพื่อเป็นข้องมูลด้วยครับ
      Chewin

      ลบ
  61. ไม่ระบุชื่อ6 ตุลาคม 2556 เวลา 04:15

    สวัสดีค่ะ ตอนนี้มีแพลนจะไปท่องเที่ยวอเมริกาเดือนเมษา57 ตอนนี้เป็นนักศึกษาปี4กำลังจะจบในเดือนมีนา57 แล้วจะไปพักบ้านคนอเมริกัน ซึ่งรู้จักกันเนื่องจาก เพื่อนบ้านดิฉันเป็นคนอเมริกันเป็นคุณครูมาสอนอยู่ที่ไทย เพื่อนของเขามาเที่ยวไทยและครอบครัวดิฉันได้ให้การดูแล โดยพาไปท่องเที่ยวและพักที่บ้านของดิฉัน การที่ฉันจะไปเที่ยวอเมริกาครั้งนี้เขายินดีต้อนรับและให้พักที่บ้านของเขาได้และจะพาฉันเที่ยว จึงอยากถามว่า
    1.จะให้เขาเขียนจดหมายเชิญไปพักที่บ้าน ซึ่งควรเขียนประวัติการได้รู้จักกันอย่างไรหรือไม่ หรือนำแบบฟอร์มที่คุณnantapornvลงไว้ ไปใช้ได้เลยค่ะ
    2.ควรที่จะให้เขาแนบแค่สำเนาบัตรประชาชน เพียงพอหรือไม่ หรือต้องแนบเอกสารอื่นๆอีกไหมคะ (พักที่บ้านเขาอย่างเดียว ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆคุณพ่อคุณแม่ดิฉันออกให้คะ)
    3.การเป็นนักศึกษาปี4 แล้วไปท่องเที่ยวคนเดียว โอกาสที่วีซ่าจะผ่านมากน้อยแค่ไหนคะ กังวลเรื่องตอบคำถาม เนื่องจากตอนจะไปเรียนจบแล้ว แต่ต้องกลับมารับปริญญาเดือนสิงหาคม57 เพราะไม่รู้ว่าจะบอกถึงความผูกพันธ์กับไทยอย่างไรให้น่าเชื่อถือว่าจะกลับมาแน่ๆ หากอ้างว่าจะกลับมารับปริญญาเหตุผลมีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน หรือมีคำแนะนำให้ตอบอย่างไรคะ
    4.หากตอนสัมภาษณ์วีซ่าบอกไปท่องเที่ยว1เดือน แต่เมื่อถึงตม.สามารถบอกว่าจะอยู่ท่องเที่ยว3เดือนได้ไหมคะ เค้าจะเชคดูประวัติไหม เพราะตั้งใจจะไปจริงๆ3เดือน (กลัวบอกตอนสัมภาษณ์วีซ่าไป3เดือน โอกาสที่จะผ่านอาจจะน้อยค่ะ)
    ช่วยตอบด้วยนะคะ กังวลมากคะ
    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. - ไม่ต้องระบุในจดหมายว่ารู้จักกันยังไงคะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาจะสัมภาษณ์เอง เอาแบบฟอร์มที่นุ้ยให้ไว้ไปใช้ได้เลยคะ พร้อมให้คนเชิญแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เซ็นรับรองให้เรียบร้อย และส่งมาทางจดหมายนะคะ
      - นักศึกษาปีสี่ผ่านไม่ยากเลยคะ ให้เขียนจดหมายแนะนำตัวไปด้วยก็ดีนะคะ ว่ากลับมาแล้วจะทำอะไร ทำงานที่ไหน หรือเรียนต่อ
      - เราเพิ่มระยะเวลาท่องเที่ยวได้เลยคะ แต่ทั้งนี่้ต้องขึ้นอยู่ว่าเราได้วีซ่านานเท่าไหร่ และเราจะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับตรวจคนเข้าเมืองอเมริกานะคะ บางครั้งเขาก็ให้หนึ่งเดือน บางครั้งก็สามเดือน ถึงสี่เดือนคะ แค่ไปมาแล้วกลับตรงเวลา ไม่อยู่เกินเวลาที่ตรวจคนเข้าเมืองระบุก็โอเคแล้วคะ

      ลบ
  62. สวัสดีครับคุณนุ้ย
    ผมมีเรื่องรบกวนถามนิดนึงครับ หลักเกณฑ์การผ่าน ตม. ที่อเมริกานี่เหมือนกันทุกที่มั้ยครับ ถ้าเป็นครอบครัวเดียวกัน เดินทางไปเที่ยวพร้อมกัน สามารถผ่านไปเป็นกลุ่มได้ คราที่แล้วผมไปกับพี่ชายเขาให้เข้าไปผ่านเจ้าหน้าที่พร้อมกัน และต้นปีหน้าผมกับพี่ชาย และจะพาพี่สาวไปเที่ยวด้วย แต่เป็นคนละรัฐ ไม่ทราบว่าตอนผ่าน ตม. เรายังสามารถเข้าไปพบเจ้าหน้าที่พร้อมกันได้อีกหรือเปล่าครับ ผมกะพี่ชายนาสกุลเดียวกัน แต่พี่สาวเขาใช้นามสกุลสามีแล้ว เราจะเอาอะไรไปยืนยันกับเขาได้ครับว่าเราเป็นพี่น้องกัน เพราะพี่สาวผม กับตัวผมไม่เก่งภาษาอังกฤษกลัวเขาถามอะไรมากมายจะตอบเขาไม่ถูกอ่ะครับ แต่พี่ชายเขาเก่งมาก...รบกวนหน่อยนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ส่วนใหญ่แล้วเหมือนกันคะ ถ้ามาพร้อมกัน สัมภาษณ์พร้อมกันได้เลยคะ แต่ถ้าเจอเจ้าหน้าที่เข้มๆ หน่อย เรื่องมากหน่อย ต่างคนต่างสัมภาษณ์คะ

      พี่สาวใช้ใบเกิดยืนยันก็ได้นะคะ เพราะยังเป็นนามสกุลก่อนแต่งงาน หรือใบทะเบียนสมรสก็ได้คะ เพราะในนั้นจะมีชื่อนามสกุลก่อนสมรส แต่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษคะ และรับรองจากกงศุลคะ

      ลบ
  63. สวัสดีค่ะ คือรบกวนอยากสอบถามว่า จะไปเที่ยวอินเดีย โดยขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยว เรื่องพักจะไปพักที่หอเพื่อนอ่ะค่ะ แล้วแบบนี้วีซ่าจะผ่านมั้ยอ่ะค่ะ อีกอย่างเรื่องของการเขียนแผนการท่องเที่ยว คือได้จองโรงแรมไปแล้ว 3 คืน ส่วนที่เหลือประมาณ 20 วันจะอาศัยหิเพื่อนอยู่อ่ะค่ะ จะต้องทำหรือเขียนอะไรยังไงมั้ยค่ะ

    รบกวนด้วยนะค่ะ... ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อินเดียวีซ่าไม่ยากเลยคะ เขียนแผนท่องเที่ยวดีๆ เตรียมหลักฐานใให้พร้อม ผ่านแน่นอนคะ ใช้แค่ใบจองโรงแรมยื่นได้เลยคะ ไม่มีปัญหาคะ

      ลบ
  64. สวัสดีค่ะ อยากรบกวนสอบถามเรื่องการขอวีซ่าประเทศแคนาดาด้วยค่ะ พอดีจะไปเยี่ยมเพื่อนที่แคนาดา และจะไปพักที่บ้านเพื่อนค่ะ มีเรื่องอยากรบกวนถามดังนี้ค่ะ
    1. เป็นข้าราชการต้องขออนุญาตตามขั้นตอน และต้องระบุสถานที่ติดต่อได้ และหนังสือเชิญจากทางแคนาดา ซึ่งต้องใช้ฉบับจริงหรือไม่
    2. หนังสือเชิญที่จะใช้ประกอบในการขอวีซ่าต้องใช้ฉบับจริงหรือว่าสามารถ print จาก e-mail ได้หรือไม่
    3. มีตัวอย่างหนังสือเชิญในฐานะเพื่อนให้ดูบ้างมั๊ยคะ อยากได้มาก ๆ เลยค่ะ
    รบกวนถามแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วจะมารบกวนใหม่ค่ะ ขอบคุรมากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หนังสือเชิญต้องเป็นตัวจริงส่งทางจดหมายมาพร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เชิญคะ ส่วนตัวอย่างหนังสือเชิญใช้ตามข้างบนได้เลยคะ เป็นแบบเพื่อนเชิญเพื่อนคะ

      ลบ
  65. เรียนคุณ Nantapornv

    พอดีมีบริษัทจากอเมริกาอยากจ้างผมไปทำงานตำแหน่งวิศวกรการตลาด ผมเลยอยากสอบถามว่า ถ้าจะให้บริษัทเขียนจดหมายเชิญผมไปทำงาน ควรจะมีรูปแบบ หรือรายละเอียดในการเขียนอย่างไงหรอครับ และเอกสารควรจะเตรียมอย่างไงบ้างหรอครับ เพราะทางโน่นเขาก็ไม่เคยทำกรณีนี้อ่าครับ และบริษัทที่จะรับผมเข้้าทำงาน เป็นน้าของผมเอง เลยอยากสอบถามว่า เอกสารหลักๆที่ต้องเตรียมควรมีอะไรบ้างหรอครับ พอดีตอนนี้ก็พอจะเตรียมเอกสารพอได้บ้างละ แต่อยากขอความคิดเห็นบ้างอ่าครับ อย่างไรก็ขอขอบคุณล่วงหน้า ณ ที่นี้ด้วยน้าครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. บริษัทต้องทำเรื่องจากอเมริกาก่อนนะคะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยคะ
      http://govisa.wordpress.com/2013/02/14/%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97-h1b/

      http://usvisathailand-thai.com/4.html

      ลบ
  66. สวัสดีคะ ชื่อต่ายนะคะ เล่าประสบการณ์และขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ
    พอดีต่ายเคยไปอเมริกาด้วยโครงการครูอาสาสอนภาษาไทยในต่างประเทศอ่ะคะ แล้วเพื่อนขอร้องให้ไปหาสัมภาษณ์วีซ่าแล้วไม่ผ่านมา 2 ครั้งแล้วอ่ะคะ ทั้งสองครั้งก็มีจดหมายมาจากเพื่อนแล้ว(แต่ไม่มีบัตรประชาชนของเพื่อน)
    หลังจากกลับมาต่ายเองก็ทำงานได้ประมาณ 7 เดือน แต่ที่ทำงานเป็นที่เดิมตั้งแต่ตอนก่อนไปเป็นครูอาสาอ่ะคะ รวมเวลาที่ทำก็น่าจะประมาณ 1ปี2เดือน มีจดหมายจากที่ทำงานแล้ว มีหนังสือรับรองการเงิน เตรียมเอกสารไปค่อนข้างดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีวิธี หรืออะไรที่จะแนะนำไหมค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ได้ไปครั้งนี้เราอาจจะไม่ได้เจอกันแล้วอ่ะคะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วรู้สึกกลัวไปหมดเลยอ่ะคะ

    ขอบคุณมากๆ นะคะ ต่าย^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณต่ายขอวีซ่าประเภทไหนไปคะ J1 หรือ B1 คะ

      ลบ
    2. แล้วเจ้าหน้าที่ปฏิเสธด้วยเหตุผลอะไรคะ ได้บอกไหมคะ จะได้รู้ว่าควรแก้ไขตรงไหน

      ลบ
  67. เรียนคุณ Nantapornv

    ผมชื่อ กีต้า ครับ พอดีจะรบกวนถามต่อเรื่องที่นายจัางที่อเมริกาจะจ้างผมทำงานเป็นวิศวกรการตลาดอ่าครับ ถ้านายจ้างที่อเมริกาเขียนจดหมายเชิญผมไปทำงานที่โน่นโดยผ่านสถานฑูตไทยที่อเมริกา แล้วส่งผ่านมาที่สถานฑูตอเมริกาที่ไทยเพียงอย่างเดียว แบบนี้พอจะเป็นหลักฐานที่เพียงพอหรือยัง หรือว่าต้องขอใบอนุญาติทำงานเลย เพราะถ้าขอกลัวจะนาน หรือว่าไม่ได้อ่าครับ และกรณีถ้าขอใบอนุญาติทำงานที่อเมริกาต้องใช้เอกสารอะไรบ้างหรอครับเพราะทางนายจ้าง เขาก็ยังไม่เคยทำกรณีแบบผมเหมือนกันอ่าครับ ผมเลยอยากรบกวนสอบถามกรณีหน่อยน้าครับ และถ้าผมจะขอวีซ่าแบบนักธุรกิจไป พอจะได้หรือเปล่าครับ แล้วถ้าสมมุติได้วีซ่าแบบนักธุกิจไปอเมริกา แล้วผมค่อยไปขออีกที เป็นวีซ่าทำงานที่โน่น และขอ ใบอนุญาติทำงาน ที่โน่นอีกที แบบนี้พอจะได้หรือเปล่าครับ คือว่ากรณีแบบนี้ เป็นกรณีบริษัท ที่ผมทำงานอยู่ตอนนี้ใช้ทำตอนส่งผมไปทำงานอินเดียอ่าครับ คือจะขอแบบไปนักธุรกิจก่อน พอไปถึงที่อินเดียก็ ทำการขอใหม่ เป็นวีซ่าทำงาน อ่าครับ ผมเลยอยากรบกวนถามพี่ว่า พี่พอจะมีแนวทางที่จะแนะนำให้ผมขอวีซ่าประเภทไไหนดี และจะได้ไม่ต้องเตรียมเอกสารนานอ่าครับ เพราะทางนายจ้างอเมริกา เขาก็บอกว่าให้ขอเป็นวีซ่าแบบนักท่องและทำงาน แล้วพอมาถึงก็ ขอวีซ่าเป็นวีซ่าทำงานที่โน่นอีกที ซึ่งเคสนี้ผมก็ยัง งงๆ อยู่ กลัวจะไม่ได้อ่าครับ เพราะใจจริงอยากไปหาประสบการ และเก็บเงินสักก้อน เพื่อมาเรียนต่อและทำความฝันให้แม่อ่าครับ อย่างไรต้องขออภัยที่มารบกวนบ่อย และเยอะหน่อยน้าครับ ขอขอบคุณนะที่นี้ด้วยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. วีซ่าทำงานนายจ้างต้องทำเรื่องที่อเมริกาก่อนคะ แต่อาจจะนานหน่อยนะคะ ใช้เวลาตั้งแต่หกเดือนถึงหนึ่งปีคะ

      แค่จดหมายเชิญอย่างเดียว ทางสถานทูตไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้คะ จดหมายเชิญใช้เฉพาะวีซ่าดูงานต่างประเทศ หรือท่องเที่ยวแบบเยี่ยมเยือน วีซ่าชนิดนี้ตรวจคนเข้าเมืองจะอนุญาตให้อยู่ได้ประมาณ 2-6 เดือน โดยพิจารณาตามวัตถุประสงค์การมาเยือนของแต่ละคนคะ

      สำหรับวีซ่าทำงานดูรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องขั้นตอนและการเตรียมหลักฐานที่นี่นะคะ
      http://govisa.wordpress.com/2013/02/14/%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97-h1b/
      http://www.siammedia.org/articles/immigration/20061201.php
      http://usvisathailand-thai.com/4.html
      http://pantip.com/topic/30839736

      อันนี้ให้นายจ้างอ่านนะคะ จะบอกรายละเอียดอย่างครบถ้วนว่าต้องทำอะไรบ้างคะ
      http://www.uscis.gov/i-129
      http://www.workpermit.com/us/us_h1b.htm


      ถ้าขอแบบวีซ่าดูงาน หรือนักธุรกิจ หมายถึงว่า เราเป็นตัวแทนในนามบริษัทที่ไทย ไปศึกษาดูงาน หรือทำงานร่วมสัญญากับบริษัทต่างชาติ เราต้องมีจดหมายรับรองจากบริษัทที่ไทยว่าเราเป็นตัวแทน และมีจดหมายเชิญจากบริษัทต่างชาติว่าเราไปดูงานอะไร ที่ไหน อย่างไร เป็นระยะเวลาเท่าไหร่

      แต่ถ้าเราจะไปทำงานแบบเดี่ยวๆ ไม่เกี่ยวกับบริษัทที่ไทย ไม่ได้ไปในนามบริษัท ต้องทำเป็นวีซ่าทำงานคะ ถึงจะผ่าน

      ถ้าทำวีซ่าท่องเที่ยว ตามกฎหมายวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่านักเรียนห้ามทำงานเด็ดขาดคะ การเปลี่ยนสถานะจากวีซ่าท่องเที่ยว เป็นวีซ่าทำงานก็ทำได้ยากมากคะ ต้องให้บริษัทที่จ้างงานเรา จ้างทนายช่วยทำเรื่องคะ อาจมีสิทธิได้รับการอนุมัติ แต่ก็ทำเรื่องนานเช่นกัน และค่าใช้จ่ายสูงมากคะ

      ลบ
  68. สวัสดีครับคุณนันทพร

    ผมเคยเขียนมาถามคุณนันทพรครั้งหนึ่งแล้วครับเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการขอวีซ่าท่องเที่ยวให้พี่สาว ได้รับคำตอบที่ดีมาก ตอนนี้ใกล้ระยะเวลาที่ผมต้องเริ่มดำเนินการเพื่อยื่นขอวีซ่าแล้ว ผมจะให้หลานสาวทำจดหมายเชิญแม่เขาไปเยี่ยมที่ฮาวาย คือ พี่สาวผมตามตัวอย่างที่ผมเคยได้รับจากคุณนันทพรมา ขอถามนิดว่าในจดหมายหลานผมควรจะทำเรื่องเชิญแม่เขาคนเดียว หรือต้องระบุตัวผม และพี่ชายที่จะร่วมเดินทางไปด้วยครับ ( เราสองคนมีวีซ่าอเมริกาแล้ว ) เพราะผมมองในแง่ที่ว่าเวลาเจ้าหน้าที่สถานฑูตถามทางพี่สาวผมเขาจะได้อ้างอิงว่าเดินทางไปพร้อมน้องสองคน คือ ผม และพี่ชาย หรือว่าไม่จำเป็นครับ

    - อีกเรื่องที่จะสอบถาม ทั้งทะเบียนสมรสของพี่สาวผม ใบแจ้งเกิดของหลานผม ( คนที่จะออกจดหมายเชิญแม่เขา ) ควรให้กรมการกงศุลแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดก่อนเพื่อเป็นหลักฐานการยื่นวีซ่าใช่มั้ยครับ

    - กรณีของพี่สาวผมเขาไม่ได้ทำงานประจำอะไร เวลาเจ้าหน้าที่ถามควรจะบอกว่าอะไรครับ แม่บ้าน หรือ ?
    ( เขามีทะเบียนสมรส ใบแจ้งเกิดลูกสาวที่จะไปเยี่ยม หนังสือรับรองการเป็นสปอนเซอร์จากน้องชาย และอื่น ๆ ตามที่คุณนันทพรแนะนำมาพร้อมครับ )

    ขอรบกวนอีกครั้งนะครับ ขอบคุณครับ
    ชาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบคำถามดังนี้นะคะ

      จดหมายเชิญระบุชื่อทุกคนที่ไปพร้อมกันคะ เจ้าหน้าที่จะได้รู้ว่าเดินทางเป็นกลุ่ม แต่วงเล็บไว้หลังชื่อว่ามีวีซ่าแล้วคะ

      ใช่คะ ควรแปลเป็นภาษาอังกฤษ และรับรองให้เรียบร้อยคะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ละเอียดคะ หากเราไม่แปลมา เขาก็ถือว่าเอกสารใช้ไม่ได้ บางคนก็ใจดี ให้ผ่านไป แต่เราเตรียมพร้อมไว้ก่อนดีกว่าคะ

      บอกว่าเป็นแม่บ้านได้เลยคะ

      ลบ
    2. ขอบคุณครับ...ทราบผลเรื่องวีซ่าเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทางคุณนันทพรทราบอีกครั้งครับ

      ชาย

      ลบ
  69. ไม่ระบุชื่อ1 ธันวาคม 2556 เวลา 11:58

    สวัสดีคะคุณนุ้ย
    ชื่อยาหยีคะ รบกวนสอบถามหน่อยคะ เครียดมากเลยคะ พอดีสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวและได้รับจดหมายเชิญจากแฟนที่โน้น(เป็นคนอเมริกา)และแฟนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้คะ ซึ่งตอนนี้หยี่เพิ่งสอบจบปอโทคะ แต่สถานะยังเป็นนักศึกษาคะ ช่วงนี้ยังทำงานช่วงนี้เลยอยากไปเยี่ยมบ้านแฟน แต่ตอนไปสอบสัมภาษณ์บอกท่านฑูรว่าเป็นนักศึกษาอยู่ปีสุดท้าย ช่วงนี้ซัมเมอร์เลยอยากไปเที่ยวและยื่นใบรับรองนักศึกษาไป พร้อมทั้งเอกสารDS160 และจดหมายเชิญ ซึ่งแฟนเขียนบรรยายรายละเอียดการวางแผนเดินทาง การท่องเที่ยวทุกอย่างตอนสัมภาษณ์ถูกถามว่า '' ไปทำอะไร ใครออกค่าใช้จ่ายให้, ทำอะไรอยู่, เจอกันได้ไง ตอนนี้ท่านทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ เพราะจริงๆแล้วเจอกันในอินเตอเน็ตแต่รู้จักกันและคุยกันมา 5 ปีและเจอกันมา 2 ครั้งแล้ว แต่กลัวว่าการเจอในเน็ตเค้าจะไม่เชื่อถือถึงความสัมพันธ์ เลยบอกไปว่าเจอกันตอนไปเที่ยวและคุยกันมาตลอด และท่านก็ถามถึงพ่อแม่ แค่นี้แล้วก็บอกว่า ไม่ผ่าน เพราะไม่มีความมั่นคงเพียงพอ ก็เสียใจมากคะตอนนั้นเพราะมีเวลาหยุดช่วงนั้นเลยอยากไปเที่ยวแต่ก็ยอมรับว่าตื่นเต้นกับการสอบครั้งนี้มาก เลยอาจจะทำให้ไม่ได้โต้ตอบท่านมาก มีแต่ให้เค้าถามเลยอาจจะทำให้ท่านไม่เชื่อ ครั้งนี้เลยจะลองขอใหม่อีกรอบคะ อยากรบกวนคุณนุ้ยช่วยแนะนำด้วยคะ ไม่รุ้ต้องทำยังไงเพราะสถานฑูรคงมีข้อมูลของเราแล้ว และกลัวขอรอบนี้ท่านฑูรจะไล่ให้ไปทำวีซ่าคู่หมั้นซึ่งยังไม่พร้อมจะทำคะขอเป็นทางเลือกสุดท้าย และอยากสอบถามว่าหากจะเปลี่ยนวีซ่าไปกับโครงการต่างๆหรือไปเรียนภาษาแทนไปท่องเที่ยวก็ยังพอจะมีสิทธิ์บ้างไหมคะ แต่สถานฑูรณ์ก็คงมีข้อมูลเราแล้วว่าเคยขอเป็นแบบท่องเที่ยวแต่ไม่ผ่านเลยมาเปลี่ยนเป็นแบบอื่นจะเป็นการบิดเบือนข้อมูลไหมคะ ตอนนี้ทั้งคิดมาก คิดไปคิดมา ดูแล้วคงไม่มีทางไปได้เลยเสียใจมากเลยคะ แต่ก็เลยอยากจะพยายามลองดูอีกซักรอบ
    ขอความช่วยเหลือจากคุณนุ้ยด้วยนะคะ
    ขอบคุณมากคะ
    ยาหยี่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวเหมือนเดิมก็ได้คะ แต่ออกค่าใช้จ่ายเอง แสดงถึงความมั่นคงทางการเงินของเรา

      วีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลัก เพราะถือว่าหากจะเดินทางท่องเที่ยว ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือตัวเอง และมีเงินเก็บพอสมควร หากให้ผู้อื่นออกค่าใช้จ่ายให้ แสดงถึงหลักฐานการทำงานที่ไม่มั่นคง มีผลถึงหลักฐานที่แสดงว่าจะกลับเมืองไทย หากการงานไม่มั่นคง ไม่มีเงินเก็บ อาจละทิ้งงานที่เมืองไทย ไปทำงานที่อเมริกาได้ จะทำให้ผู้ยื่นไม่มีความน่าเชื่อถือได้ แต่หากเป็นนักเรียน ยังไม่มีรายได้ สามารถใช้บัญชีธนาคารของผู้ปกครองได้ ส่วนวีซ่านักเรียน แลกเปลี่ยน เข้าร่วมโครงการ คู่หมั้น แต่งงาน เจ้าหน้าที่ดูบัญชีธนาคารและหลักฐานอื่นๆ ของสปอนเซอร์ประกอบด้วย

      ทางที่ดีที่สุด ใช้บัญชีที่มีเงินเดือนของตัวเองหมุนเวียนตลอดคะ เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ต้องการดูว่าเรามีเงินมากแค่ไหน แต่เขาต้องการเช็คสถานภาพทางการเงินในแต่ละเดือนว่าเรามีเงินเข้ามากน้อยแค่ไหน เก็บมากน้อยแค่ไหน เพียงพอไหมที่จะใช้จ่ายในต่างประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวหรือไม่นะคะ

      เขาดูเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือน กับเงินในบัญชีประกอบกันนะคะ หากมีเงินในบัญชีมากกว่าเงินเดือน ควรแสดงที่มาของรายได้ในทางอื่นด้วย เช่น เงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจอิสระนอกเวลา เงินของขวัญ โบนัสต่างๆ เพราะทางหากเราเอามาใส่เลย เขาก็จะคิดว่าเราจงใจแต่งบัญชี ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ทำให้เครดิตเราเสียไปคะ สถานทางการเงิน และความมั่นคงในการงานของเราจะไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้สถานะที่จะยืนยันว่าเราจะกลับไทยลดความน่าเชื่อถือลงมากคะ หลักๆ แล้วภาระผูกพันที่ไทย เขาจะดูที่หน้าที่การงานคะ ถ้ามั่นคงจริง ยังไงเราก็ต้องกลับมาทำงานอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มั่นคง ทำงานไป เงินเก็บก็ไม่มี หรือมีน้อย เขาก็จะคิดว่าเรามีโอกาสทิ้งงาน ไม่กลับมาไทยได้คะ

      การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      ให้ขอเอกสารทั้ง Bank Statement และ Bank Guarantee นะคะ

      ลบ
    2. หรือหากยังเรียนอยู่ ไม่มีรายได้ ควรให้พ่อ หรือแม่เป็นสปอนเซอร์มากกว่าแฟนคะ

      ลบ
  70. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2556 เวลา 15:39

    สวัสดีคะพี่นุ้ย
    ขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ชื่อแอมนะคะ

    คือ เรื่องของแอมมันยุ่งวุ่นวายมากนิดนึงนะคะ
    หาคนปรึกษาไม่ได้เลย พี่สาวไม่แท้ ก้ไปอย
    างโรบินฮู้ด เลยไม่น่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีนะคะ

    พอดีว่บตอนนี้ แอม และลูก แยกกันอยู่กับแฟนคะ
    อยู่ที่ไทย แฟนอยู่อเมริกาคะ
    เรื่องมันยุ่งจนจับทางจะดำเนินการไม่ถูกนะคะ
    พอดีแฟนแอมเป็นcitizen แบบไม่สมบูรณ์นะคะ
    พอดีคุณพ่อเค้าเป็นอเมริกันแยกกันอยู่กับเค้า
    และได้ทำcitizenให้เค้าเมื่อสองปีก่อน ผ่านแล้วคะ
    ทีนี้เค้าไปได้ตลอดเพราะเป็นพลเมือง แต่ไม่เคยไปเลย จนเรลแต่งงานมีลูกด้วยกันคะ อยู่กันมาสามปีกว่า ลูกอายุ1ขวบ ทำวีซ่าก้ให้ลูกก้ไม่ได้ เพราะแกกำ้กึ่งนะคะมีพ่อเป็นพลเมือง สถานฑูตเลยแนะนำให้ไปยื่นขอซิติเซ่นให้ลูก เพื่อออกจดหมายปฏิเสธว่าไม่ใช่พลเมืองสหร่ฐเพราะเกิดที่ไทยคะ ปัญหามันคือ พ่อเค้าไม่เคยไป เลยไม่สามารถทำเรื่องให้ใครใดๆได้ ต้องไปอยู่และเสียภาษีประมาน5ปี ตอนนี้เดินทางไปแล้วคะ ได้3เดือน ครอบครัวเค้า มีร้านอาหารไทยคะ มีพ่อแท้ๆ เปนคนสหรัฐโดยสมบูรณ์ และ ป้าแท้ ๆ เปนคนสหรัฐเช่นกันคะ ทีนี้เลี้ยงลูกอยูไทยคนเดียวลำบากมากคะ อยู่กันสองคนแม่ลูก แฟนอยากให้ไปอยู่ด้วย นู๋พวรทำไงดีคะ
    1.แฟนบอกให้ทำเรื่องขอวีซ่าแบบท่องเที่ยว จะผ่านไม๊คะ นู๋เคยไปอเมริกา3ครั้งปับจุบันมีวีซ่า10ปีที่ไม่หมดอายุ แต่จดทะเบัยนสมรสใช้นามสกุลแฟน สถานฑูตแนะนำให้ขอใหม่ จะได้ไม่วุ่นวายที่ตม สหรัฐคะ
    กลัวจะไม่ผ่านมาก เพราะขอให้ลูก แม่และเด็กอายุขวบกว่า กลัวจะไม่ให่ผ่านจังคะ
    2.เลยจะแนบเอกสารของแฟนที่ไทย และที่อเมริกา มีจม เชิญ/ทะเบียนร้าน/ทะเบียนบ้าน/โซเชี่ยลของป้าและแฟน/สเตจเม้นป้าและแฟน/ บัตร ปชช ของแฟน
    จะผ่านไม๊คะ เพราะกลัวกรณีเค่าจะกลัวเราหนีไปอยุ่กับแฟน แต่แฟนบอกไม่น่าห่วง เพราะพ่อ แม่ ลูกแท้ๆกันเค้าจะไม่กีดกันคะ
    3ควรจะบอกดีไม๊คะความจริงว่าจะไปอยู่กับแฟน หรือบอค่ไปเยี่ยมดีคะ เพราะแพลรจริงๆแฟนจะให้ไปจดทะเบียนแต่งงานอาศัยด้วยกันคะ

    เครียดมากเลยคะ แยกกันอยู่แบบนี้
    รบกวนด้วยนะคะ นู๋ตันจริงๆคะ เห็นพี่มีประสบการณ์มากอ่านบลอคแล้วได้ความรู้เยอะเลยอะคะ

    ปล ลืมบอกไปคะว่า น้องแฟนจะบินกลับมารับนู๋คะ ไปพร้อมเค้า ด้วย เพราะแฟนนู๋ยางกลับไม้ได้คะ น้องเค้าอยู่มาเปนปีๆละอะคะ เป็นซิติเซ้นเช่นกันคะ

    ขอบพระคุณอย่างสูง ล่วงหน้าคะพี่นุ้ย

    ตอบลบ
  71. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2556 เวลา 15:52

    ลืมบอกไปคะ ว่ามีทะเบียนสมรส แปลแล้ว
    ใบเกิดลูก ระบุชื่อพ่อ แปลแล้ว
    มีเอกสารใบปฏิเสธความเป็นพลเมืองสหรัฐของลูกตามที่สถานฑูต(ฝ่ายพลเมืองสหรัฐเป็นผู้ออก)

    และเอกสารอื่นๆตามที่ระบุแจ้งด้านบนแล้วคะ
    นู๋ทำธุระกิจส่วนตัวขายของออนไลน์ เงินหมุนเวียนหลักแสน-ล้าน ทุกเดือน แต่ถอนออกเข้าออกประจำ
    แต่ไม่มีใบจดทะเบียนคะเพราะขายองนไลน์
    มีโฉนดบ้านชื่อตัวเอง
    พอได้ไม๊คะ และต้องเอาไปแปลทั้งหมดใช่ไม๊คะ

    ตอบลบ
  72. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2556 เวลา 16:06

    ข้อความส่วนนี่โพสไม่ติด
    เป็นข้อความที่มาก่อน โพสที่153 นะคะ


    สวัสดีคะพี่นุ้ย
    ขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ชื่อแอมนะคะ

    คือ เรื่องของแอมมันยุ่งวุ่นวายมากนิดนึงนะคะ
    หาคนปรึกษาไม่ได้เลย พี่สาวไม่แท้ ก้ไปอย
    างโรบินฮู้ด เลยไม่น่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีนะคะ

    พอดีว่บตอนนี้ แอม และลูก แยกกันอยู่กับแฟนคะ
    อยู่ที่ไทย แฟนอยู่อเมริกาคะ
    เรื่องมันยุ่งจนจับทางจะดำเนินการไม่ถูกนะคะ
    พอดีแฟนแอมเป็นcitizen แบบไม่สมบูรณ์นะคะ
    พอดีคุณพ่อเค้าเป็นอเมริกันแยกกันอยู่กับเค้า
    และได้ทำcitizenให้เค้าเมื่อสองปีก่อน ผ่านแล้วคะ
    ทีนี้เค้าไปได้ตลอดเพราะเป็นพลเมือง แต่ไม่เคยไปเลย จนเรลแต่งงานมีลูกด้วยกันคะ อยู่กันมาสามปีกว่า ลูกอายุ1ขวบ ทำวีซ่าก้ให้ลูกก้ไม่ได้ เพราะแกกำ้กึ่งนะคะมีพ่อเป็นพลเมือง สถานฑูตเลยแนะนำให้ไปยื่นขอซิติเซ่นให้ลูก เพื่อออกจดหมายปฏิเสธว่าไม่ใช่พลเมืองสหร่ฐเพราะเกิดที่ไทยคะ ปัญหามันคือ พ่อเค้าไม่เคยไป เลยไม่สามารถทำเรื่องให้ใครใดๆได้ ต้องไปอยู่และเสียภาษีประมาน5ปี ตอนนี้เดินทางไปแล้วคะ ได้3เดือน ครอบครัวเค้า มีร้านอาหารไทยคะ มีพ่อแท้ๆ เปนคนสหรัฐโดยสมบูรณ์ และ ป้าแท้ ๆ เปนคนสหรัฐเช่นกันคะ ทีนี้เลี้ยงลูกอยูไทยคนเดียวลำบากมากคะ อยู่กันสองคนแม่ลูก แฟนอยากให้ไปอยู่ด้วย นู๋พวรทำไงดีคะ
    1.แฟนบอกให้ทำเรื่องขอวีซ่าแบบท่องเที่ยว จะผ่านไม๊คะ นู๋เคยไปอเมริกา3ครั้งปับจุบันมีวีซ่า10ปีที่ไม่หมดอายุ แต่จดทะเบัยนสมรสใช้นามสกุลแฟน สถานฑูตแนะนำให้ขอใหม่ จะได้ไม่วุ่นวายที่ตม สหรัฐคะ
    กลัวจะไม่ผ่านมาก เพราะขอให้ลูก แม่และเด็กอายุขวบกว่า กลัวจะไม่ให่ผ่านจังคะ
    2.เลยจะแนบเอกสารของแฟนที่ไทย และที่อเมริกา มีจม เชิญ/ทะเบียนร้าน/ทะเบียนบ้าน/โซเชี่ยลของป้าและแฟน/สเตจเม้นป้าและแฟน/ บัตร ปชช ของแฟน
    จะผ่านไม๊คะ เพราะกลัวกรณีเค่าจะกลัวเราหนีไปอยุ่กับแฟน แต่แฟนบอกไม่น่าห่วง เพราะพ่อ แม่ ลูกแท้ๆกันเค้าจะไม่กีดกันคะ
    3ควรจะบอกดีไม๊คะความจริงว่าจะไปอยู่กับแฟน หรือบอค่ไปเยี่ยมดีคะ เพราะแพลรจริงๆแฟนจะให้ไปจดทะเบียนแต่งงานอาศัยด้วยกันคะ

    เครียดมากเลยคะ แยกกันอยู่แบบนี้
    รบกวนด้วยนะคะ นู๋ตันจริงๆคะ เห็นพี่มีประสบการณ์มากอ่านบลอคแล้วได้ความรู้เยอะเลยอะคะ

    ปล ลืมบอกไปคะว่า น้องแฟนจะบินกลับมารับนู๋คะ ไปพร้อมเค้า ด้วย เพราะแฟนนู๋ยางกลับไม้ได้คะ น้องเค้าอยู่มาเปนปีๆละอะคะ เป็นซิติเซ้นเช่นกันคะ

    ขอบพระคุณอย่างสูง ล่วงหน้าคะพี่นุ้ย

    ตอบลบ
  73. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2556 เวลา 22:10

    ข้อความโพสไม่ติดคะ
    ส่วนนี้เป็นเรื่องราวก่อนหน้าคะพี่นุ้ย


    สวัสดีคะพี่นุ้ย
    ขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ชื่อแอมนะคะ

    คือ เรื่องของแอมมันยุ่งวุ่นวายมากนิดนึงนะคะ
    หาคนปรึกษาไม่ได้เลย พี่สาวไม่แท้ ก้ไปอย
    างโรบินฮู้ด เลยไม่น่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีนะคะ

    พอดีว่บตอนนี้ แอม และลูก แยกกันอยู่กับแฟนคะ
    อยู่ที่ไทย แฟนอยู่อเมริกาคะ
    เรื่องมันยุ่งจนจับทางจะดำเนินการไม่ถูกนะคะ
    พอดีแฟนแอมเป็นcitizen แบบไม่สมบูรณ์นะคะ
    พอดีคุณพ่อเค้าเป็นอเมริกันแยกกันอยู่กับเค้า
    และได้ทำcitizenให้เค้าเมื่อสองปีก่อน ผ่านแล้วคะ
    ทีนี้เค้าไปได้ตลอดเพราะเป็นพลเมือง แต่ไม่เคยไปเลย จนเรลแต่งงานมีลูกด้วยกันคะ อยู่กันมาสามปีกว่า ลูกอายุ1ขวบ ทำวีซ่าก้ให้ลูกก้ไม่ได้ เพราะแกกำ้กึ่งนะคะมีพ่อเป็นพลเมือง สถานฑูตเลยแนะนำให้ไปยื่นขอซิติเซ่นให้ลูก เพื่อออกจดหมายปฏิเสธว่าไม่ใช่พลเมืองสหร่ฐเพราะเกิดที่ไทยคะ ปัญหามันคือ พ่อเค้าไม่เคยไป เลยไม่สามารถทำเรื่องให้ใครใดๆได้ ต้องไปอยู่และเสียภาษีประมาน5ปี ตอนนี้เดินทางไปแล้วคะ ได้3เดือน ครอบครัวเค้า มีร้านอาหารไทยคะ มีพ่อแท้ๆ เปนคนสหรัฐโดยสมบูรณ์ และ ป้าแท้ ๆ เปนคนสหรัฐเช่นกันคะ ทีนี้เลี้ยงลูกอยูไทยคนเดียวลำบากมากคะ อยู่กันสองคนแม่ลูก แฟนอยากให้ไปอยู่ด้วย นู๋พวรทำไงดีคะ
    1.แฟนบอกให้ทำเรื่องขอวีซ่าแบบท่องเที่ยว จะผ่านไม๊คะ นู๋เคยไปอเมริกา3ครั้งปับจุบันมีวีซ่า10ปีที่ไม่หมดอายุ แต่จดทะเบัยนสมรสใช้นามสกุลแฟน สถานฑูตแนะนำให้ขอใหม่ จะได้ไม่วุ่นวายที่ตม สหรัฐคะ
    กลัวจะไม่ผ่านมาก เพราะขอให้ลูก แม่และเด็กอายุขวบกว่า กลัวจะไม่ให่ผ่านจังคะ
    2.เลยจะแนบเอกสารของแฟนที่ไทย และที่อเมริกา มีจม เชิญ/ทะเบียนร้าน/ทะเบียนบ้าน/โซเชี่ยลของป้าและแฟน/สเตจเม้นป้าและแฟน/ บัตร ปชช ของแฟน
    จะผ่านไม๊คะ เพราะกลัวกรณีเค่าจะกลัวเราหนีไปอยุ่กับแฟน แต่แฟนบอกไม่น่าห่วง เพราะพ่อ แม่ ลูกแท้ๆกันเค้าจะไม่กีดกันคะ
    3ควรจะบอกดีไม๊คะความจริงว่าจะไปอยู่กับแฟน หรือบอค่ไปเยี่ยมดีคะ เพราะแพลรจริงๆแฟนจะให้ไปจดทะเบียนแต่งงานอาศัยด้วยกันคะ

    เครียดมากเลยคะ แยกกันอยู่แบบนี้
    รบกวนด้วยนะคะ นู๋ตันจริงๆคะ เห็นพี่มีประสบการณ์มากอ่านบลอคแล้วได้ความรู้เยอะเลยอะคะ

    ปล ลืมบอกไปคะว่า น้องแฟนจะบินกลับมารับนู๋คะ ไปพร้อมเค้า ด้วย เพราะแฟนนู๋ยางกลับไม้ได้คะ น้องเค้าอยู่มาเปนปีๆละอะคะ เป็นซิติเซ้นเช่นกันคะ

    ขอบพระคุณอย่างสูง ล่วงหน้าคะพี่นุ้ย

    ตอบลบ
  74. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2556 เวลา 10:34

    ขอบคุณมากคะ ข้อมูลละเอียดและมีประโยชน์มากคะ
    ยาหยี่

    ตอบลบ
  75. ไม่ระบุชื่อ10 ธันวาคม 2556 เวลา 02:12

    คือจะขอวีซ่าไปพม่าแบบวีซ่าธุรกิจอะค่ะ อยากได้ตัวอย่างว่าน่าจะมีเนือหาสาระประมาณไหน รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่เคยมีประสบการณ์เลยคะ เดี๋ยวขอหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนะคะ

      ลบ
  76. สวัสดีครับ คุณนุ้ย

    พรุ่งนี้ผมจะพาพี่สาวไปทำพาสปอร์ตที่สถานกงสุลอ่ะครับ และจะให้ทางหน่วยงานสถานกงสุลแปลเรื่องหลักฐานต่าง ๆ ที่จะใช้ประกอบยื่นสถานฑูตอเมริกาด้วย เช่น
    - ทะเบียนสมรสของพี่สาว
    -ใบสูจิบัตรของลูกสาวเขาคือคนที่จะไปเยี่ยม ( หลานสาวผม ) ผมมีปัญหานิดนึงจะเรียนถามคุณนุ้ยว่า เนื่องจากหลานผมคนนี้มีการเปลี่ยน ชื่อ นามสกุล มาประมาณ 3 ครั้ง
    เช่น ครั้งที่ 1 แจ้งชื่อเกิดกับทางโรงพยาบาลตอนคลอด ด.ญ. ไผ่ สินชัย ระบุชื่อพ่อ แม่ ถูกต้องตามความเป็นจริง
    ครั้งที่ 2 ขอเปลี่ยนชื่อจาก ด.ญ. ไผ่ สินชัย เป็น ด.ญ. สุนทรี สินชัย ระบุชื่อพ่อ แม่ถูกต้องเรียบร้อย
    ครั้งที่ 3 ขอเปลียนชื่อจาก ด.ญ.สุนทรี สินชัย เป็น ด.ญ.ชนรรถา สินชัย ระบุชื่อพ่อ แม่ถูกต้อง
    ครั้งที่ 4 ขอเปลี่ยนนามสกุล จาก สินชัย เป็น ณ ถลาง ตามนามกสุลแม่ ( เพราะเนื่องจาก พ่อ แม่ แยกทางกัน )
    ครั้งที่ 5 หลานผมคนนี้เรียนจบ แต่งงงานจดทะเบียนสมรสถูกต้อง และได้เดินทางไปทำงานที่อเมริกา มีหลักฐานถูกต้องทุกอย่าง ( ซึ่งตอนนี้ผมให้เขาส่งสำเนาใบทะเบียนสมรถ และสำเนาเปลี่ยนนามสกุลที่ใช้ตามสามี ซึ่งรับรองถูกต้องส่งมาให้พร้อมกับจดหมายเชิญ และหลักฐานประกอบอื่น ๆ ที่ทางคุณนุ้ยแนะนำมา )

    จะเห็นว่าหลักฐานยืนยันของหลานผมเยอะมากกว่าจะมาถึงชื่อ นามสกุล ปัจจุบัน ผมไม่แน่ใจว่าไอ้เอกสารที่ผมอ้างอิงมาตั้งแต่ต้นตอนเขาเกิด มาจนถึง ชื่อ และนามสกุลปัจจุบันก่อนเขาแต่งงานใช้นามสกุลสามี จะต้องให้สถานกงสุลแปล และรับรองเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยมั้ยครับ เพราะทุกใบพี่สาวผมมีตัวจริงหมด เพราะผมเกรงว่าถ้าแปลเฉพาะใบสูจิบัตรตอนเกิดอย่างเดียว เดี๋ยวเจ้าหน้าที่การฑูตจะบอกว่าทำไมชื่อ และนามสกุลไม่ตรงกันกับปัจจุบันอ่ะครับ

    รบกวนความรู้คุณนุ้ยอีกนะครับ ถ้าต้องให้แปลหมดทุกแผ่น ก็ต้องแปล แต่ถ้าไม่จำเป็น ให้แปลเฉพาะใบสูจิบั้ตร ผมก็จะเอาตามคำแนะนำครับ ทั้งนี้เพื่อให้ถูกต้องครบถ้วนสุด เพราะเราไม่ได้แสดงเจตนาหลอกลวงอยู่แล้วครับ

    ขอบคุณครับ
    ชาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ามีเปลี่ยนชื่อ ต้องแปลและรับรองทุกใบคะ

      ลบ
  77. ไม่ระบุชื่อ17 ธันวาคม 2556 เวลา 03:35

    สวัสดีค่ะ คุณ Nantapornv

    หนึ่งรบกวนถามหน่อยค่ะ ป้าที่อาศัยอยู่ที่สหรัฐ อยากชวนคุณย่าไปเที่ยว แต่พอไปสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่านค่ะ ทางสถานทูตแจ้งว่าหลักฐานแสดงภาระผูกพันกับไทยมีไม่เพียงพอ หนึ่งคิดว่าเนื่องจากคุณปู่เพิ่งเสีย คุณย่าก็อายุมากแล้ว (73ปี) ไม่ได้ทำงานอะไร อาศัยอยู่กับลูกชาย ซึ่งก็คือลุงกับพ่อของหนึ่ง เขาคงกลัวว่าคุณย่าไปแล้วจะไม่กลับมาเมืองไทย จะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

    ขอบคุณล่วงหน้ามากๆค่ะ
    หนึ่ง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณย่ามีนัดพบคุณหมออะไรประมาณนี้ไหมคะ เอาใบนัดไปเป็นหลักฐานได้ หรือเอกสารถือครองทรัพย์สิน ที่ดิน ธุรกิจที่ไทยคะ แล้วก็ให้คุณที่เชิญส่งจดหมายเชิญ พร้อมรับรองว่าคุณย่าแค่ไปเที่ยว จะกลับไทยในวันไหนก็ระบุไปคะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ21 ธันวาคม 2556 เวลา 01:04

      ขอบคุณมากๆเลยคะคุณนุ้ย ช่วยได้มากเลยคะสำหรับคำแนะนำ ส่วนเรื่องเอกสารใบนัดหมอหรือทำธุรกิจอะไรคุณย่าไม่มีค่ะ มีแต่โฉนดที่ดินกับจดหมายเชิญ ถ้าคุณย่าจะไปเที่ยวประมาณ 2-3 เดือน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่มั้ยค่ะ กลัวไม่ผ่านจัง...

      ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

      ลบ
    3. น่าจะไม่มีปัญหาคะ ขอให้โชคดีนะคะ ได้ผลยังไงแล้วบอกด้วยนะคะ

      ลบ
  78. สวัสดีครับคุณนุ้ย

    ผมได้ปรึกษาคุณนุ้ยมาหลายครั้งแล้ว ในวันที่ 24 มกราคม ที่จะถึงนี้ถึงคิวพี่สาวจะได้สอบสัมภาษณ์ที่สถานฑูต นัดไว้รอบ 7 โมงเช้า ได้ผลอย่างไรจะแจ้งให้คุณนุ้ยทราบทันทีครับ หลักฐานต่าง ๆ ก็ได้เกือบครบแล้ว ( จดหมายเชิญจากลูกสาวเขา และ เอกสารแนบต่าง ๆ ตามคุณนุ้ยแนะนำเขาส่งแนบมาให้ถึงบ้านเรียบร้อยแล้วครับ ) เหลือรอหลักฐานการทำงานจากสปอนเซอร์ และสเต็ทเม้นท์อยู่ในระหว่างดำเนินการอยู่น่าจะได้ประมาณอาทิตย์หน้า ผมมีเรื่องจะเรียนถามนิดว่า กรณีของพี่สาวผมตอนไปสัมภาษณ์ในวันดังกล่าวผมกะจะไปเป็นเพื่อนเขาหน่อยเนื่องจากพี่เขาไม่เคยไป ไม่ทราบว่าตอนที่เขาเรียกให้เข้าไปข้างในผู้ติดตามมีสิทธิ์เข้าไปได้มั้ยครับ...อันนี้อยากทราบจริง ๆ เพราะตอนผมกับพี่ชายสัมภาษณ์เราไปกันสองคนแต่แอบเห็นก่อนเข้าไปในสถานฑูตมีคนอื่น ๆ เขาเหมือนจะเป็นพวกไกด์ตามมาประกบลูกทัวร์ที่กำลังจะเข้าไปสัมภาษณ์กันเต็มเลย ผมก็ไม่แน่ใจว่าพอสถานฑูตเรียกให้เข้าไปด้านในพวกเขาได้ตามไปด้วยหรือเปล่า เพราะไอ้ของเราสองคนพี่น้องก็ตื่นเต้นพอควรแล้วเลยไม่ทันได้สังเกตุอะไรทั้งสิ้น ...ฉะนั้นผมเลยต้องเรียนถามคุณนุ้ยเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าคนนอกที่ไม่ได้ไปสัมภาษณ์แต่ไปเป็นเพื่อนมีสิทธิ์เข้าไปด้วยหรือเปล่า เพียงแต่ประกบห่าง ๆ โดยเจ้าตัวจะต้องเป็นผู้ตอบคำถามในแต่ละส่วนเองทั้งหมด..เพราะผมมานึกถึงจุดนึงที่่ว่าถ้าเป็นคุณลุง หรือคุณป้าแก่ ๆ ที่ต้องไปขอวีซ่าเองเขาจะรู้เรื่องได้อย่างไรในแต่ละขั้นตอนเพราะมันหลายจุดเหลือเกินกว่าจะไปถึงขั้นตอนสุดท้าย...ถ้าไม่มีลูกหลานคอยบอกเหมือนตอนพาไปโรงพยาบาล คุณลุง คุณป้า เขาจะเดินไปถูกจุดได้อย่างไรครับ....แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรผมยืนรอข้างนอกได้อยู่แล้ว รบกวนคุณนุ้ยอีกครั้งนะครับ

    ขอบคุณครับ
    ชาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สถานทูตอนุญาตเฉพาะผู้สัมภาษณ์เท่านั้นคะที่เจะเข้าไปได้ ก่อนเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่รปภ คอยเช็คเอกสารการนัดหมายกับสถานทูต หากเราไม่มีเอกสารดังกล่าว เราจะไม่มีสิทธิ์เข้าไปคะ

      แต่มีข้อยกเว้นประการเดียวคือ สำหรับผู้สมัครที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี และผู้สมัครที่มีความพิการที่จำเป็นต้องมีผู้ติดตามเท่านั้น สถานทูตจึงจะอนุญาตคะ

      อ่านเพิ่มเติมที่นี่นะคะ http://thai.bangkok.usembassy.gov/non-immigrant_visas/visa-appointments.html

      ลบ
    2. อันนี้คัดลอกมาจากหน้าเว็บของสถานทูตคะ

      เฉพาะผู้สมัครวีซ่าเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณสถานทูตฯ ผู้สมัครวีซ่าไม่สามารถนำสมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนมาด้วยได้ แม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะเป็นพลเมืองอเมริกันก็ตาม ในขณะสัมภาษณ์ ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องแสดงกรณีของตนเอง ผู้สมัครควรเตรียมตัวพูดเกี่ยวกับความผูกพันของตน และจุดประสงค์การเดินทางโดยไม่มีสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ หรือตัวแทนทางกฎหมายอยู่ด้วย ยกเว้นผู้สมัครวีซ่าที่อายุต่ำกว่า 13 ปีหรือผู้สมัครที่ทุพพลภาพที่ต้องมีผู้อื่นเดินทางร่วมมาด้วยภายใต้สถานกาณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง

      ลบ
    3. ในสถานทูตจะมีเจ้าหน้าที่สาวๆ คอยจัดคิว และอำนวยความสะดวกให้ ไม่ต้องเป็นห่วงคะ หากไม่เข้าใจอะเไร ให้ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย

      หรือก่อนเข้าไปในสถานทูต จะมีการต่อคิวหน้าสถานทูต ให้ฝากคุณป้าไว้กับหนุ่มๆ สาวๆ ที่มาสัมภาษณ์เหมือนกันคะ เลือกวัยรุ่น หรือวัยทำงานที่เป็นมิตร ดูใจดีหน่อยก็ได้คะ ให้คอยช่วยบอกทางให้ ตอนนุ้ยไปสัมภาษณ์ ก็เห็นหลายๆ คนทำแบบนี้คะ ฝากแม่ไว้กับคนที่มายืนต่อคิวใกล้ๆ กัน แล้วตัวเองยืนรอแม่อยู่หน้าสถานทูต พอผ่านด่านรปภ ไปแล้ว ก็ง่ายละคะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเอกสาร และเรียงเอกสสาร จากนั้นเราก็จะได้บัตรคิว นั่งรอจนถึงคิวเรา จะมีคนเรียก หรือประกาศขึ้นหน้าจอ ก็ไปต่อแถวพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะบอกว่าให้เราไปต่อแถวไหนเพื่อสัมภาษณ์ต่อไปคะ

      หลักๆ จะมี
      ต่อแถวหน้าสถานทูต
      ผ่านด่านรปภ ตรวจอาวุธ ฝากกระเป๋า
      ต่อแถวตรวจเอกสาร เรียงเอกสาร รับบัตรคิว
      ต่อแถวพิมพ์ลายนิ้วมือ
      ต่อแถวสัมภาษณ์
      ถ้าผ่าน จ่ายเงินที่ไปรษณีย์
      รับกระเป๋าคืน
      เดินออกจากสถานทูต

      ลบ
    4. โชคดีนะคะ ขอให้ผ่านคะ

      ลบ
  79. ไม่ระบุชื่อ4 มกราคม 2557 เวลา 00:41

    สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากรบกวนถามหน่อยค่ะ คือว่าเป็นข้าราชการค่ะ จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ แคนาดา ตอนนี้ อยู่ในระหว่างการขออนุญาตจากทางต้นสังกัดอยู่ค่ะ ถ้าได้หนังสือขออนุญาตเมื่อไหร่ก็จะไปดำเนินการขอวีซ่าค่ะ ทีนี้ปัญหาก็คือว่า หนังสืออนุญาตจากต้นสังกัดนั้นต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือเปล่า ถ้าเราส่งต้นฉบับเป็นภาษาไทยได้หรือไม่ ในการจองตั๋วเครื่องบินนั้นต้องจองวันไหนถึงวันไหน ถ้าหากว่าจะขอวีซ่าตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย- 2 พ.ค. 54
    เราสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ตั้งแต่วันนี้ หรือว่าต้องรอให้หนังสืออนุญาตออกก่อนคะ แล้วมีสายการบินดี ๆ ราคาไม่แพงแนะนำบ้างมั๊ยคะ รบกวนด้วยค่ะ แบบว่านี่เป็นครั้งในการเดินทางไกลค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยคะ ส่วนการจองตั๋วเครื่องบินจองก่อนขอวีซ่าประมาณหนึ่งเดือนถึงสองอาทิตย์คะ

      ลองเข้่าไปจองในเว็บนี้นะคะ ราคาตั๋วถูกมาก บริการประทับใจ
      http://www.skyscanner.co.th/
      http://www.expedia.co.th/Flights

      ลบ
  80. ไม่ระบุชื่อ6 มกราคม 2557 เวลา 02:18

    ขอบคุณค่ะจะลองเข้าไปดูนะคะ ไม่รู้ว่าการขอวีซ่าท่องเที่ยวแคนาดาจะยากมั๊ยคะ ถ้าหากว่าเราเป็นข้าราชการและมีเพื่อนเชิญไปเที่ยวทางโน้น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ยากเลยคะ น่าจะผ่านสบายๆ

      ลบ
  81. ไม่ระบุชื่อ6 มกราคม 2557 เวลา 02:39

    อีกคำถามค่ะ ถ้าเราขอวีซ่าไปแคนาดาระหว่างวันที่ 3 เม.ย - 2 พ.ค. 57 เราต้องจองตั๋วเครื่องบิน ขาไปคือวันที่ 3 เม.ย. และขากลับในวันที่ 2 พ.ค. 57 ใช่หรือเปล่าคะ

    ตอบลบ
  82. สวัสดีครับ คุณนุ้ย

    ผมมีปัญหาจะปรึกษาอยู่ 1 เรื่องครับ หลักฐานที่จะใช้แนบจดหมายสปอนเซอร์ ( สำหรับขอวีซ่าอเมริกา )ที่ผมเตรียมไว้คือ

    - จดหมายแจ้งการเป็นสปอนเซอร์ให้กับผู้ที่จะขอวีซ่า ( ทำตามตัวอย่างที่คุณนุ้ยเคยให้มาทุกอย่าง ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ตามความเหมาะสมครับ )
    - Bank Statement & Bank Gurantee ของผู้เป็นสปอนเซอร์ทางธนาคารออกให้เรียบร้อยแล้ว
    - หนังสือรับรองที่ทำงาน ( รอจากหน่วยงานอยู่ )

    ผมจะเรียนถามคุณนุ้ยว่ากรณีหนังสือรับรองที่ทำงานถ้าทางหน่วยงานออกไม่ทัน สามารถใช้สลิปเงินเดือนล่าสุดของผู้เป็นสปอนเซอร์ได้มั้ยครับ เพราะในสลิปจะระบุเงินเดือน ชื่อสถานที่ทำงานทุกอย่าง แล้วเซ็นชื่อกำกับอีกครั้ง ผมเป็นกังวลอยู่มาก เพราะใกล้เวลาที่จะสัมภาษณ์แล้ว แต่หน่วยงานยังออกหนังสือรับรองไม่เสร็จเลย ขนาดขอล่วงหน้าไปเดือนนึงแล้วนะครับ...( อย่างว่าละครับหน่วยงานราชการ และผู้เซ็นสูงอายุแล้ว มีตำแหน่งที่สูงมากๆ ไม่สามารถจะไปเร่งรัดอะไรได้เลยครับ ) เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ก็จะถึงวันสอบ เลยจำเป็นที่จะต้องหาหลักฐานอย่างอื่นเตรียมไว้ก่อนถ้าสามารถใช้ได้อ่ะครับ

    รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะครับ

    ขอบคุณครับ
    Chewin

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริงๆ แล้วต้องออกเป็นหนังสือรับรองนะคะ แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ สลิปเงินเดือนสามเดือนล่าสุดก็ได้คะ

      ลบ
  83. ไม่ระบุชื่อ19 มกราคม 2557 เวลา 14:46

    มีเรื่องรบกวนขอสอบถามหน่อยค่ะ จะขอวีซ่าเชงเก้นระยะสั้นไปเยี่ยมญาติที่ฝรั่งเศสต้นเมษานี้ ไปกับแม่และน้องชายค่ะมีจดหมายเชิญจดหมายรับรองจากญาติทางโน้นแล้วแม่กับน้าที่อยู่ที่นั่นเป็นสปอนเซอร์ค่ะ คือแม่กับน้องชายจะอยู่แค่15วันส่วนหนูจะขอ60วันค่ะแล้วหนูลองไปถามบริษัทเอเจนซี่ดูเค้าบอกว่ายังไงวีซ่าหนูก็ไม่ผ่านเพราะหนูอายุ19ยังเรียนอยู่แล้วแม่กับน้องขอแค่15วันแต่หนูจะขอ60วันนี่ยังไงก็ไม่น่าจะผ่านแทบเป็นไปไม่ได้ แล้วสปอนเซอร์นี่ให้ทั้งแม่และน้าเป็นหรือใช้บัญชีแม่คนเดียวดีคะ คือน้ามีครอบครัวอยู่ที่นั่นและเพิ่งคลอดน้องค่ะ คือมันมีทางไหนที่จะขอให้ผ่านมั้ยคะอยากรู้ว่าหนูต้องเตรียมเอกสารแน่นแค่ไหนถึงจะมีความเป็นไปได้ว่าจะผ่านคะตอนนี้กังวลมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คือต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเวลาเราเดินทางกลับนะคะ จะผ่านง่าย

      ลบ
  84. สวัสดีครับคุณน้อย

    ผมจะมาเรียนบอกคุณนุ้ยว่าพี่สาวผมสอบวีซ่าอเมริกาผ่านแล้วนะครับวันนี้ แต่มีเรื่องเรียนบอกคุณนุ้ยว่าเกือบไม่ได้เข้าสอบเพราะไม่ได้ print หน้าที่เป็น confirm DS160 ซึ่งจะมีรูปถ่ายเรา และมีบาร์โค๊ตสแกนอยู่ คือ ผมพิมพ์ใบอื่นมาหมด แต่ขาดใบนี้ ทีแรกก็ฉุกคิดเหมือนกันว่าสมัยตัวเองสอบมันมีใบนี้ด้วยแต่ทำไมรู่นพี่สาวถึงไม่มี โชคดีที่มีร้านฝั่งตรงข้ามสถานฑูตเขาเปิดบริการ print ให้ แต่เสียค่าพิมพ์ใบละ 200 บาท ( อย่าว่า 200 เลย 1000 บาทคงต้องยอม ) และโชคดีอีกที่หลานสาวผมเขาเปิดมือถือดูพอดีเพราะเขาอยู่ฮาวาย และเป็นคนกรอกข้อมูล DS160 ฉะนั้นมันจะต้องมีพาสเวิดร์ผ่านข้อมูลเข้าไปก่อนถึงจะ print ได้ ....ใจหายวาบเลย ไม่คิดว่าจะมาตายน้ำตื่นอย่างนี้ เตรียมทุกอย่างมาจนพร้อม แต่มาขาดใบสำคัญใบเดียว...เลยฝากเตือนท่านอื่น ๆ ว่าต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดี ๆ ก่อนสอบว่าคุณพิมพ์ข้อมูลมาครบแล้วไม่งั้นจะเจอเคสแบบผมอีก...ผมถามพี่สาวว่าเขาตรวจหลักฐานอะไรบ้าง พี่เขาบอกว่าแทบไม่ถามอะไรมากมายเลย หลักฐานที่สำคัญส่วนใหญ่คือ จดหมายเชิญ วีซ่า สถานที่ทำงาน ของลูกสาวเขาทั้งหมด ส่วนอื่น ๆ ทางกงสุลไม่ดูอะไรเลย...ดีนะได้คุณนุ้ยแนะนำเรื่องขอสำเนา วีซ่า พาสปอร์ต หลักฐานการทำงานของหลานสาว ไม่งั้นได้ยากเหมือนกันครับ

    แจ้งเพื่อทราบตามสัญญาครับ ขอบคุณมาก ๆ นะครับสำหรับคำแนะนำในทุก ๆ เรื่อง
    Chewin

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยินดีด้วยนะคะ เที่ยวให้สนุกนะคะ ขอบคุณสำหรับการแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ดีๆ คะ ค่าบริการ print โหดมากจริงๆ เลยคะ ไม่คิดว่ามีแบบนี้ด้วย แต่ก็ยังโชคดีที่ทันการณ์นะคะ

      ลบ
    2. ด้วยความยินดีครับ...ผมซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับไว้เรียบร้อยแล้วรอวันเดินทางอย่างเดียว ( 20 กุมภาพันธุ์ ) ณ จุดนี้ในฐานนะผมเป็นคนนึงที่มาขอคำปรึกษาคุณนุ้ย และได้อ่านเคสของคนอื่น ๆ ที่แชร์ประสบการณ์ร่วมกัน...ผมขอย้ำอีกครั้งว่าถ้าท่านใดเจอปัญหาแบบเดียวกับผม คือปริ๊นเอกสาร DS160 หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับการขอวีซ่าอเมริกาที่ต้องปริ๊นออกมาจากระบบก็ตาม ท่านอย่าเพิ่งหมดหวังขอให้ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามตึกสินธร ( ถ้าจำไม่ผิด ) เข้าไปในตึกขึ้นไปบันไดเลื่อนอยู่ชั้น 2 ผมจำชื่อร้านไม่ได้ แต่ถามเจ้าหน้าที่เขารู้จักหมด ร้านเขาเปิดเช้ามาก ๆ พอ ๆ กับกงสุลเปิดสัมภาษณ์รอบแรกเลย ไปใช้บริการเขาได้ ถึงค่าบริการจะโหดไปนิด แต่คุ้มครับ...กับการที่เราไม่ได้รับการสัมภาษณ์เพียงเพราะขาดเอกสารที่พิมพ์มาไม่ครบด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง...ไม่ได้โฆษณาให้ร้านเขานะครับ...เพียงแค่แชร์ประสบการณ์ว่า จุดที่หมดหนทาง ณ ในเวลานั้น ยังมีอีกธุรกิจนึงที่เปิดขึ้นมาช่วยเราในเรื่องนี้ ( เจ้าหน้าที่ในร้านบอกว่าเจอบ่อยมากเคสแบบผม และอื่น ๆ ด้วย ) อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรื่องราคาก่อน ขอให้เราได้เข้าสอบตามจุดประสงค์ และหลักฐานต่าง ๆ ที่เตรียมมา มันคุ้มค่ามากกว่าครับ

      ขอบคุณครับ
      Chewin

      ลบ
  85. ไม่ระบุชื่อ26 มกราคม 2557 เวลา 23:25

    สวัสดีค่ะคุณนุ้ย
    ดิฉันมีเรื่องขอคำปรึกษาค่ะ
    1)ดิฉันทีพี่สะใภ้อยู่ที่ออสเตเรียนค่ะเค้าจะเชิญดิฉันไปเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เค้ากำลังส่งจดหมายเชิญพร้อมกับเอกสารต่างๆมาให้ดิฉัน และเค้าเป็นสปอร์ตเซอร์ให้กับดิฉันทุกอย่างค่ะไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก ค่าใช้จ่าย ตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ ดิฉันอยากทราบว่าในกรณีที่พี่สะใภ้เป็นสปอร์ตให้ดิฉันและคนละนามสกุลกันจะมีปัญหาในการยื่นวีซ่าประเทศออสเตเรียมั๊ยค่ะ
    2)เนื่องจากว่าดิฉันไม่ได้ทำงานอะไรพี่สะใภ้จึงทำเรื่องเป็นสปอร์ตให้ทั้งหมด ดิฉันอยากทราบว่าเอกสารที่ดิฉันจะใช้ยื่นมีอะไรบ้างค่ะ ขอแบบละเอียดค่ะ
    3)เวลาไปยื่นวีซ่าเค้าต้องสัมภาษณ์เราหรือเปล่าค่ะ สัมภาษณ์ตอนไหน แล้วสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษค่ะ
    ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลที่ให้นะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หากนามสกุลไม่เหมือนกัน แต่ยืนยันความสัมพันธ์ได้ว่าเป็นอะไรกัน ก็ไม่มีปัญหาคะ ไม่จำเป็นต้องนามสกุลเดียวกันก็ได้คะ

      ส่วนเรื่องเอกสารดูเพิ่มเติมที่นี่นะคะ
      http://www.aussiecenter.org/index/556/
      http://vfs-au.net/Thai/

      เอกสารแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เรียบร้อยคะ ยื่นเอกสารได้หลายทางนะคะ
      ยื่นด้วยตนเองที่ สำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าของออสเตรเลีย (AVAC)
      ชั้น 34, ตึก ไทย ซีซี, เลขที่ 889 ถนน สาทร (ใต้), กรุงเทพฯ
      (ตรงข้ามกับ สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.vfs-au.net
      เบอร์โทร 0 – 2672 – 3476 (ถึง 79)
      เวลายื่น – รับ: 08.50 น. – 15.00 น. และเวลา: 15.00 น. – 16.30 น. รับวีซ่า
      สำหรับใบสมัครวีซ่าท่องเที่ยวและธุรกิจ(Subclass 600)และTemporary Work Visa(Subclass 400) ที่ยื่นผ่านวีเอฟเอส ระยะเวลาในการพิจารณาใบสมัครในปัจจุบันคือ 10 วันทำการ

      ส่งทางไปรษณีย์ที่ สถานทูตออสเตรเลีย (แผนกวีซ่า)
      37 ถนน สาทร (ใต้) กรุงเทพฯ 10120
      ผู้สมัครจะต้องแนบซองเปล่าจ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองติดแสตมป์ สำหรับส่งคืนเอกสารทางไปรษณีย์
      สำหรับใบสมัครวีซ่าท่องเที่ยวและธุรกิจ (Subclass 600).Temporary Work Visa(Subclass 400) ที่ส่งโดยตรงไปยังสถานทูตออสเตรเลียโดยทางไปรษณีย์ ระยะเวลาในการดำเนินการที่สถานทูตกำหนดคือ 1 เดือน

      ลบ
  86. ไม่ระบุชื่อ26 มกราคม 2557 เวลา 23:42

    ขอถามเพิ่มเติมค่ะ
    เอกสารที่ดิฉันไปยื่นในการขอวีซ่าประเทศออสเตเรียนั้นดิฉันต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือเปล่าค่ะหรือว่าใช้เป็นภาษาไทย และดิฉันก็จดทะเบียนสมรสต้องใช้ทะเบียนสมรสด้วยใช่มั๊ยค่ะ

    ตอบลบ
  87. รบกวนพี่นุ้ยด้วยน่ะคะ ....จะไปหาเพื่อนที่ Portland เพื่อนออกค่าตั๋วไปกลับให้ เป็นเพื่อนสมัยเรียน ปวช.ด้วยกันแต่ตอนนี้เพื่อนไปเรียนที่นั่นและทำงานด้วย ได้วันนัดสัมภาษณ์วันที่ 14 กุมภา 57 นี้แล้วค่ะ ต้องให้เพื่อนเขียนจดหมายเชิญเราไหมค่ะ ออกค่าใช้จ่ายเอง เรื่องที่พัก ไปพักอยู่กับเพื่อน ต้องใช้เอกสารอย่างอื่นเพิ่มเติมไหมค่ะ ตอนนี้ มีเอกสาร คือ พาสปอร์ต Ds-160 หนังสือรับรองการทำงาน ใบลางาน statement ใบนัดสัมภาษณ์ ....ในกรณีบัญชีตอนนี้มีเงินในบัญชีไม่มาก เพราะเป็นบัญชีเงินเดือน ...อยากถามว่า ถ้าให้พี่ชายอยู่ที่อังกฤษเป็นญาติกัน รับรองค่าใช้หั้ยได้ไหมคะ...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. วีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะดูเอกสารของผู้ยื่นเป็นหลัก เพราะถือว่าหากจะเดินทางท่องเที่ยว ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือตัวเอง และมีเงินเก็บพอสมควร หากให้ผู้อื่นออกค่าใช้จ่ายให้ แสดงถึงหลักฐานการทำงานที่ไม่มั่นคง มีผลถึงหลักฐานที่แสดงว่าจะกลับเมืองไทย หากการงานไม่มั่นคง ไม่มีเงินเก็บ อาจละทิ้งงานที่เมืองไทย ไปทำงานที่อเมริกาได้ จะทำให้ผู้ยื่นไม่มีความน่าเชื่อถือได้ แต่หากเป็นนักเรียน ยังไม่มีรายได้ สามารถใช้บัญชีธนาคารของผู้ปกครองได้ ส่วนวีซ่านักเรียน แลกเปลี่ยน เข้าร่วมโครงการ คู่หมั้น แต่งงาน เจ้าหน้าที่ดูบัญชีธนาคารและหลักฐานอื่นๆ ของสปอนเซอร์ประกอบด้วย

      ทางที่ดีที่สุด ใช้บัญชีที่มีเงินเดือนของตัวเองหมุนเวียนตลอดคะ เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ต้องการดูว่าเรามีเงินมากแค่ไหน แต่เขาต้องการเช็คสถานภาพทางการเงินในแต่ละเดือนว่าเรามีเงินเข้ามากน้อยแค่ไหน เก็บมากน้อยแค่ไหน เพียงพอไหมที่จะใช้จ่ายในต่างประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวหรือไม่นะคะ

      เขาดูเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือน กับเงินในบัญชีประกอบกันนะคะ หากมีเงินในบัญชีมากกว่าเงินเดือน ควรแสดงที่มาของรายได้ในทางอื่นด้วย เช่น เงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจอิสระนอกเวลา เงินของขวัญ โบนัสต่างๆ เพราะทางหากเราเอามาใส่เลย เขาก็จะคิดว่าเราจงใจแต่งบัญชี ยืมเงินคนอื่นมาใส่ ทำให้เครดิตเราเสียไปคะ สถานทางการเงิน และความมั่นคงในการงานของเราจะไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลให้สถานะที่จะยืนยันว่าเราจะกลับไทยลดความน่าเชื่อถือลงมากคะ หลักๆ แล้วภาระผูกพันที่ไทย เขาจะดูที่หน้าที่การงานคะ ถ้ามั่นคงจริง ยังไงเราก็ต้องกลับมาทำงานอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มั่นคง ทำงานไป เงินเก็บก็ไม่มี หรือมีน้อย เขาก็จะคิดว่าเรามีโอกาสทิ้งงาน ไม่กลับมาไทยได้คะ

      การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      ให้ขอเอกสารทั้ง Bank Statement และ Bank Guarantee นะคะ

      ลบ
  88. สวัสดีคะ คือหนูจะขอคำปรึกษาหน่อยอ่ะคะ
    หนูจะเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวที่รู้จักกัน และอยากไปเที่ยวหลังเรียนจบด้วยคะ
    1.หนูเรียนอยู่ชั้นปี4กำลังจะจบการศึกษา แต่ตอนนี้ได้ไปขอใบรับรองเปนนักศึกษาแล้ว และใบผลการเรียน จะมีส่วนทำให้วีซ่าผ่านง่ายไหมคะ
    2.หนูจะใช้bank statement ของพ่อ แต่พ่อไม่ได้จดใบประกอบการ ทำอาชีพรับถมที่อ่ะคะ สามารถใช้เป็นรูปถ่ายแล้วเขียนบรรยายได้ไหมคะ
    3 ถ้าพ่อไม่มีใบประกอบการ สามารถใช้ของพี่ชายแท้ๆได้ไหม ทำอาชีพรับถมที่เหมือนกันคะ ต้องใช้bank statement พี่ชายด้วยได้ไหม
    4ถ้าเงินในบัญชีของพ่อมีเงินฝากไม่ถึงแสน แต่ว่ามีเงินเดินสะพัดตลอด ครั้งล่ะ 2หมื่น-4หมื่นบาท จะมีโอกาสผ่านวีซ่าไหม หรือว่าเอา bank statement ของพี่ชายด้วยได้ไหม แต่อาจจะไม่เข้าขนาดพ่อ อาจจะหมื่น-2หมื่น
    ส่วนบัญชีของหนูเองมีบัญชีร่วมกับพ่อ มีเงินฝาก1แสนบาท จะใช้ได้ไหมคะ



    รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยนะคะ กังวลมากจิงๆคะ
    คือเราพอมีกำลังจะไป แต่กังวลว่าพ่อไม่ได้จดใบประกอบการ แถมไม่แน่ใจว่ามีเงินฝากถึงแสนไหม เพราะมีคนบอกต้องมีถึงหลายแสนเรย แต่บัญชีของพ่อมีเงินเดินเข้าเดินออกตลอด6เดือนที่ผ่านมาอ่ะคะ
    จะมีโอกาสผ่านวีซ่าไหมคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบคำถามดังนี้นะคะ

      1.หนูเรียนอยู่ชั้นปี4กำลังจะจบการศึกษา แต่ตอนนี้ได้ไปขอใบรับรองเปนนักศึกษาแล้ว และใบผลการเรียน จะมีส่วนทำให้วีซ่าผ่านง่ายไหมคะ
      มีส่วนช่วยได้มากเลยคะ

      2.หนูจะใช้bank statement ของพ่อ แต่พ่อไม่ได้จดใบประกอบการ ทำอาชีพรับถมที่อ่ะคะ สามารถใช้เป็นรูปถ่ายแล้วเขียนบรรยายได้ไหมคะ
      ควรมีเอกสารที่ระบุให้ชัดเจนคะ เช่น สัญญาจ้างที่ลูกค้าเคยทำ บัญชีการเงินของกิจการ หรือเอกสารการทำการค้าต่างๆ หรือเอกสารการเป็นเจ้าของรถหรือเครื่องจักรที่ใช้ถมที่คะ

      3 ถ้าพ่อไม่มีใบประกอบการ สามารถใช้ของพี่ชายแท้ๆได้ไหม ทำอาชีพรับถมที่เหมือนกันคะ ต้องใช้bank statement พี่ชายด้วยได้ไหม
      ถ้าพี่ชายมีหลักฐานเอกสารครบ ใช้ของพี่ชายได้เลยคะ ต้องมีทั้ง Bank Statement and Bank Guarantee คะ

      4ถ้าเงินในบัญชีของพ่อมีเงินฝากไม่ถึงแสน แต่ว่ามีเงินเดินสะพัดตลอด ครั้งล่ะ 2หมื่น-4หมื่นบาท จะมีโอกาสผ่านวีซ่าไหม หรือว่าเอา bank statement ของพี่ชายด้วยได้ไหม แต่อาจจะไม่เข้าขนาดพ่อ อาจจะหมื่น-2หมื่น
      ส่วนบัญชีของหนูเองมีบัญชีร่วมกับพ่อ มีเงินฝาก1แสนบาท จะใช้ได้ไหมคะ

      การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      ลบ
  89. สวัสดีคะพี่นุ้ย คนเดียวกับด้านบนนะคะ
    1 ถ้าใช้เอกสารทั้งของพ่อและของพี่ชายได้ไหม ทั้งBank Statement and Bank Guarantee และใบประกอบการอ่ะคะ ถ้าพ่อและพี่ชายมีเอกสารการผ่อนรถอยู่ต้องนำเอกสารไปด้วยไหม ให้มันดูเยอะๆเข้าไว้
    2 ในอีกกรณีนึงถ้าใช้Bank Statement and Bank Guarantee ของพ่อ แร้วใบประกอบการของพี่ชายได้ไหมคะ คือธุรกิจถมที่เหมือนกัน แต่แค่พ่อไม่ได้จดใบประกอบการ หรือว่าต้องเอาBank Statement and Bank Guarantee
    ของพี่ชายไปประกอบด้วย
    3 เหนเค้าว่าถ้าไปทำวีซ่าต้องพ่อแม่มีเงินเปนล้านเรยหลอ คือหนูแค่ไปเยี่ยมพี่สาวที่รู้จักกัน และก็ไปเที่ยวอ่ะคะ ในช่วงปิดภาคเรียน
    4 ตอนกรอก ds160 พี่สาวที่อยู่ที่เมกา จะให้กรอกที่อยู่และเบอร์โทร เพราะหนูจะไปพักที่นู้นกับเค้า อย่างงี้ทางวีซ่าจะคิดว่าเราจะไปอยู่ที่เมกาไหมคะ เพราะมีพี่สาวที่นั้น แต่หนูแค่ไปเยี่ยมเฉยๆอ่ะคะ ต้องกลับมาเรียนอีก

    คำถามงงหน่อยนะคะ รบกวนพี่ช่วยให้คำแนะนำด้วยคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช้ของใครคนใดคนหนึ่งคะ โอนเงินจากบัญชีพ่อไปที่พี่ชายก็ได้คะ ค่อยๆ โอนทีละเล็กละน้อย ส่วนเอกสารการผ่อนรถที่ใช้ในกิจการ ที่เป็นชื่อพี่ชายเอาไปประกอบการสัมภาษณ์ได้คะ และมีรูปทำงานประกอบด้วยคะ

      วีซ่าท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะคะ การคิดเงินในบัญชีว่าเพียงพอหรือไม่ ให้คิดจากจำนวนวันที่เราเดินทางคูณด้วยร้อยเหรียญนะคะ เจ้าหน้าที่เขาถือว่าอยูู่ในต่างประเทศต้องมีเงินอย่างน้อยวันละร้อยเหรียญ จากนั้นบวกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมเงินที่ใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือเงินติดบัญชีไว้ประมาณหนึ่งหมื่นบาทนะคะ จากนั้นตอนสัมภาษณ์เราก็ต้องสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ว่า เราจัดการการใช้จ่ายการเงินอย่างไรบ้าง มันจะมีบางครั้งที่เขาถามว่า ใครอออค่าใช้จ่ายให้ คิดว่าเงินจะพอไหม หากไม่พอจะทำอย่างไร หรือมีแผนการเดินทาง การใช้จ่ายอย่างไรบ้าง ประมาณนี้นะคะ เตรียมตอบไว้ก่อนคะ

      ถ้าไปเยี่ยมพี่สาวต้องมีจดหมายเชิญด้วยคะ และระบุที่อยู่ให้เรียบร้อย หากเรามีหลักฐานชัดเจนว่าจะกลับไทย เช่น ใบลาต่างๆ ก็ไม่มีปัญหาเลยคะ การกรอกข้อมูลควรระบุความจริงทุกประการคะ เราจะได้ไม่มีปัญหาทีหลังคะ

      ลบ
  90. สวัสดีค่ะพี่นุ้ย
    รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ ถ้าได้รับเชิญไปสัมมนาและดูงานที่อเมริกา เลือกประเภทวีซ่าเป็น B1/B2 ได้ไหมคะ และบริษัทที่เชิญเป็น sponsor ให้ คำถามคือ
    1. ต้องมีแผนเที่ยวไหมคะ
    2. ต้องใช้ statement ของเราด้วยไหมคะ
    3. หรือจะขอเป็นแบบ B1 อย่างเดียวพอคะ
    ตอบให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. - ไม่ต้องมีแผนการท่องเที่ยวคะ แต่ต้องมีกำหนดการสัมมนาที่ทางอเมริกาส่งมาให้เราคะ
      - ไม่ต้องใช้ statement ของเราคะ ใช้ของสปอนเซอร์คะ
      - ขอแบบดูงานเลือก B1 คะ

      ลบ
    2. แล้วถ้าขอแบบ B1/B2 ไป จะเป็นอะไรไหมคะ

      มันมีให้เลือกแบบ B1 อย่างเดียว B2 อย่างเดียว แล้วก็แบบ B1/B2 เลยเลือกแบบ B1/B2 ไปน่ะค่ กลัวว่าจะเลือกผิดประเภทค่ะ

      ลบ
    3. ควรจะเลือกเจาะจงไปเลยจะดีกว่านะคะ

      ลบ
  91. สวัสดีค่ะ
    รบกวนถามหน่อยนะคะ คือว่า หนูจะทำเรื่องไปฝึกงานที่เมกา ตอนนี้เรียนอยู่ปีสามค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องกรอกวัตถุประสงค์ในการเดินทางเป็นประเภทไหนค่ะ งงมากเลย จะไปเดือนมีนานี้ค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  92. สวัสดีครับ
    ผมวางแผนจะไปเยี่ยมญาติที่ ซานฟาน แต่ผมจะเดินทางจาก บราซิลเข้าไปเพราะว่าจะไปเทียวบราซิลช่วงฟุตบอลโลก ระหว่าง เดือน มิย ถึง กค และก็ต้องกลับไปขึ้นเครื่องกลับไทยที่ บราซิล(ผมซื้อตั๋วไปกลับบราซิลแล้ว)
    จะรบกวนถามในเรื่อง ดังนี้ครับ

    1.จะให้ญาติผมเขียนจดหมายเชิญควรจะระบุยังไงดีครับเพราะผมจะเข้าอเมริกาทางบราซิล
    2.เอกสารอ้างอิงควรมีอะไรบ้าง (ต้องขอโทษด้วยอาจเป็นคำถามซ้ำ)
    3.อย่างช้าที่สุดที่ควรจะทำเรื่องขอวีซ่าไม่ควรเกินวันไหน (ผมเดินทางไปบราซิล 17 มิย)
    4.สามารถติดต่อกับคุณทางโทรศัพท์ได้ไหมถ้าผมไม่สะดวกที่จะพิมพ์ถาม(ผมมีเรื่องที่ต้องการถามเยอะมาก)

    รบกวนด้วยนะครับ

    Montree
    E-Mail:mteewa@yahoo.com

    ตอบลบ