วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เที่ยวอเมริกาด้วยรถไฟกับ Amtrak California Zephyr Rail


การท่องเที่ยวอเมริกานั้นทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะล่องเรือสำราญ ขับมอเตอร์ไซค์ข้ามรัฐ เช่ารถบ้าน หรือการขับรถเที่ยวไปในแต่ละรัฐ 

วันนี้เราจะมานำเสนอการท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือ การนั่งรถไฟเที่ยวรอบๆ อเมริกา ข้อดีของการท่องเที่ยวด้วยวิธีนี้ก็คือ เราได้ใช้ชีวิตให้ช้าลง ได้ชื่นชมธรรมชาติ และวิวทิวทัศน์ตลอดเส้นทางการเดินทาง โดยไม่ต้องปวดหัวกับการขับรถ กังวลเรื่องเส้นทางการเดินทาง หรือรถติด ได้มีเวลากินลม ชมวิว ถ่ายรูป จิบไวน์ และพูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง 

Amtrak บริษัทรถไฟแห่งเดียวของอเมริกา ได้จัดทริปการเดินทางเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ ของอเมริกาด้วยรถไฟหลายๆ เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยว Grand National Parks with Yellowstone, Yosemite, and the Grand Canyon หรือเส้นทาง Alaska Rail and Sail with Denali National Park from Chicago เส้นทางนี้ได้นั่งรถไฟชมธรรมชาติ และมีการล่องเรือกับ Norwegian Jewel ตบท้าย แต่เส้นทางที่น่าสนใจ และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดที่อยากจะแนะนำวันนี้ ก็คือ California Zephyr Rail เดินทางทั้งหมด 7 วัน จาก Chicago, IL → San Francisco, CA ราคาเริ่มต้นที่ 649$ ราคาเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลท่องเที่ยว ถ้าเป็นช่วง summer ที่เด็กนักเรียนปิดเทอมใหญ่ ราคาก็จะสูงหน่อย เลื่อนขึ้นไปเป็น 1,200$-1,600$ 

ในราคานี้รวม 
∘ ตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวจาก Chicago to San Francisco นอนในรถไฟ 2 วัน
∘ ที่พักในโรงแรม 4 คืน 2 คืนแรกที่ Chicago และอีกสองคืนใน San Francisco 
∘ อาหารค่ำ 1 มื้อในเมือง San Francisco 
∘ Big Bus Tour ตั๋วรถบัสชมเที่ยวชมสถานที่สำคัญในเมือง Chicago และ San Francisco 

ข้างล่างนี้จะเป็นรายละเอียด Package Tour แบบคร่าวๆ แบบผู้ใหญ่ 1คน เด็ก 1 คน ในช่วงเดือนสิงหาคม ถือว่ายังเป็นช่วง Summer ราคาจะแพงกว่าช่วงอื่นๆ ช่วงที่แพงที่สุดจะเป็นช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฏาคม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่คนอเมริกันเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด 

Wed, 31 Aug 2022California Zephyr Rail Experience  1Adult7 DaysUS$1,399.00US$1,399.00 
    1Child US$1,249.00US$1,249.00 
 Electronic Documents -  1Kit  Included 
 Kimpton Hotel Monaco Chicago, Chicago, IL
Essential Room - Room Only
  1Single with Child2 Nights Included 
Thu, 01 Sep 2022Big Bus Tours Chicago Classic The Big Loop Hop on Hop off - 24 Hour Pass
  1Adult  Included 
    1Child  Included 
 Skydeck Chicago Admission
  1Adult1 Included 
    1Child  Included 
Fri, 02 Sep 2022Depart Chicago (CHI), IL at 2:00 PM onboard the California Zephyr
  1Adult(s)  Included 
    1Child(ren)  Included 
 Amtrak from Chicago - San Francisco in Coach Accommodations
  1Double Coach1 Day Included 
Sat, 03 Sep 2022Onboard Amtrak
  1Adult(s)  Included 
    1Child(ren)  Included 
Sun, 04 Sep 2022Arrive in San Francisco (SFW), CA at 5:00 PM onboard the California Zephyr
  1Adult(s)  Included 
    1Child(ren)  Included 
 Holiday Inn Express San Francisco Union Square, San Francisco, CA
1 King Bed Standard - Breakfast Included
  1Single with Child2 Nights Included 
Mon, 05 Sep 2022Dinner at Swiss Louis Italian & Seafood Restaurant
  2Adult1 Included 
 Big Bus Tours Day Tour Hop on Hop off - 24 hour Pass
  1Adult  Included 
    1Child  Included 
 

การเดินทางในสองวันแรกจะเป็นการเที่ยวชมเมือง Chicago วันที่ 3 และ 4 นอนบนรถไฟ ระหว่างทางจะได้ชมธรรมชาติของเทือกเขา Rocky Mountains, วิวทะเลทรายของรัฐ Utah และ Nevada จบท้ายด้วยความงามของสะพาน Golden Gate เมือง San Francisco ในยามเย็น 

สำหรับทริปนี้แนะนำว่าให้ลางานสักสองอาทิตย์มาเที่ยวชมเมือง Chicago ก่อน เมืองนี้ถือว่าเป็นที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้ New York เลย ใครเป็นสายละคร สายมหรสพ การแสดงต่างๆ ห้ามพลาดที่จะมาเยือนเมืองนี้ 



Chicago เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอเมริกา ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอย ทางตอนกลางของอเมริกา รู้จักกันในชื่อ "เมืองแห่งลม" (Windy City) มีชื่อเสียงด้าน ละครเวที ดนตรีแจ๊ส และดนตรีบลูส์ ในตัวเมืองชิคาโกนั้นมีโรงละครที่เก่าแก่และโด่งดังอยู่หลายที่ โดยโรงละครที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ หอประชุมโรงละครแห่งมหาวิทยาลัยรูสเวล์ท (The Auditorium Theatre of Roosevelt University) ซึ่งถูกออกแบบโดย แดนค์มาร์ แอดเลอร์ และ หลุยส์ ซุลลิแวน สถาปนิกชื่อดัง ปัจจุบันตึกที่เป็นที่ตั้งของโรงละครแห่งนี้ได้ถูกบรรจุให้เป็น National Historic Landmark building ของประเทศสหรัฐอเมริกาและมีการแสดงที่หลากหลาย เช่น โอเปร่า, บัลเลท์ เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี 

นอกจากนี้ Chicago ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง เริ่มจากในศูนย์กลางเมืองชิคาโก หรือที่เรียกว่าดาวน์ทาวน์ Downtown จะมี วิลลิสทาวเวอร์ (Willis Tower) ตึกที่ได้ชื่อว่าเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกในช่วง ปี พ.ศ. 2517-2546 และตึกจอห์นแฮนค็อก (John Hancock Tower) และ วอเตอร์ทาวเวอร์ สิ่งก่อสร้างชิ้นเดียวที่รอดจากไฟไหม้ใหญ่ของชิคาโก  Chicago bean หรือ Cloud Gate อยู่ตรง Millennium Park ถือเป็น Landmark สำคัญที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูป 

มิวเซียมแคมปัส (Museum Campus) แหล่งรวมพิพิธภัณฑ์ของชิคาโกบริเวณริมทะเลสาบมิชิแกนตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแกรนต์ปาร์ก (Grant Park) พิพิธภัณฑ์ฟิลด์ พิพิธภัณฑ์ที่มีฟอสซิลของไดโนเสาร์สมบูรณ์ที่สุดในโลกที่รู้จักในชื่อว่า "ที.เร็กซ์ ซู" (T.Rex Sue) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเชดด์ (Shedd Aquarium) และ หอดูดาวแอดเลอร์ (Adler Planetarium) และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชิคาโก ในเขตแกรนต์ปาร์กมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียง ชื่อว่าสถาบันศิลปะชิคาโก หรือ "อาร์ตอินสติตูตออฟชิคาโก" (Art Institute of Chicago) ตั้งอยู่บนถนนมิชิแกน สำหรับตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ สามารถเช็คราคาและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่



ราคาที่พัก Hostel – โฮสเทลในชิคาโก้ เฉลี่ยระหว่าง 25$-50$ ต่อคืน ส่วนโรงแรมจะเริ่มต้นที่คืนละ 60$ สามารถเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมข้างล่าง 

www.trip.com

ราคาเริ่มต้นคืนละ 52$

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

www.snaptravel.com

ราคาเริ่มต้นคืนละ 58$

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

wayaway.io

ราคาเริ่มต้นคืนละ 60$

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


มาถึงเมือง San Francisco ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์และความโรแมนติกสูง ตึกรามบ้านช่องเป็นแบบวิคตอเรียนสมัยเก่า รอบล้อมด้วยวิวทะเลสาบ อากาศเย็นสบายและสดชื่นตลอดทั้งปี เหมาะกับการปั่นจักรยานชมเมือง 



เมืองนี้มีสถานที่สวยๆ น่าถ่ายรูปอยู่หลายแห่ง จุดแรกที่ทุกคนต้องไปคือ สะพานโกลเด้นเกต Golden Gate สัญลักษณ์สำคัญของเมือง เป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ ทอดข้ามอ่าวซานฟรานซิสโกเพื่อเชื่อมต่อกับเมืองมารีน (Marin County) มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร



จุดที่สองที่พลาดไม่ได้คือ ถนนลอมบาร์ด (Lombard Street) ถือได้ว่าถนนที่คดเคี้ยวแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ระหว่าง Jones Street และ Hyde Street มีทั้งหมด 8 โค้งแบบหักศอก และเป็นเนินชันสูง การเดินรถจะเป็นทางเดียว สองข้างทางจะเป็นบ้านเรือนสไตล์วิคตอเรียน (Victorian Style) ที่ประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ สุดถนนเส้นนี้จะสามารถมองเห็นวิวของอ่าวซานฟรานซิสโก ขับออกไปไม่ไกลจะมีร้านไอติม Swensen เป็นร้านไอติมเล็กๆ แต่มีไอติมให้เลือกหลากหลายรสชาติเลยทีเดียว

ใครที่อยากเห็นวิวสวยๆ ทั้งเมืองของซานฟรานซิสโก ต้องไปที่ Twin Peaks เป็นยอดเขาอยู่กลางใจเมือง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 282 เมตร เหมาะสำหรับการชมวิวยามเย็น หรือดูดาวกลางคืน 



แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งก็คือ เกาะอัลคาทราซ (Alcatraz Island) ที่นี่เคยถูกใช้เป็นคุกขังนักโทษจากสงครามกลางเมือง เกาะอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณ Pier 39 สำหรับทัวร์ชมเกาะราคาเริ่มต้นที่ 99$ มีหลายแบบให้เลือกเช่น Alcatraz Island and San Francisco City Bus Tour หรือใครอยากเดินชมเมืองสามารถเลือกแบบ Fisherman's Wharf Walking Tour and Alcatraz ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tiqets.com



สำหรับราคาที่พักในเมือง San Francisco นั้นจะแพงกว่า Chicago เล็กน้อย Hostel เช่น Green Tortoise Hostel ตรงถนน Broadway Street เริ่มต้นที่คืนละ 50$ ส่วนที่พักในเมืองที่ติดกับ Bay Bridge และสะพาน Golden Gate ราคาจะเริ่มที่ 100$ ขึ้นไป เคยพักที่  Harbor Court Hotel ราคาคืนละ 180$ โรงแรมสวย วิวดีมากๆ ตื่นเช้ามามองออกไปจากหน้าต่างเป็นวิวทะเล และสะพาน Bay Bridge มีลักษณะเป็นสะพานแขวน เชื่อมต่อระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกกับเมืองโอ๊คแลนด์ (Oakland) ใน Alameda County ซึ่งจะทอดข้ามผ่าน Treasure Island สวยมากๆ โรแมนติกสุดๆ โรงแรมมีจักรยานให้ยืมปั่นเล่นแถวๆ ท่าเรือ (Pier 39) และแวะถ่ายรูปตามจุดสำคัญต่างๆ เช่น the Sea Lion Center, the Hyde Street Pier, Ghirardelli Square จากท่าเรือถ้าขยันอีกหน่อย สามารถปั่นไปสะพาน Golden Gate ได้เลย สามารถดู Review ที่พัก และเช็คราคาที่พักเพิ่มเติมได้ข้างล่าง 

www.trip.com

ราคาเริ่มต้นคืนละ 57$

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

www.snaptravel.com

ราคาเริ่มต้นคืนละ 94$

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

wayaway.io

ราคาเริ่มต้นคืนละ 60$

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


ส่วนคนที่ต้องการเช็คราคาตั๋วเครื่องบินจากเมืองต่างๆ มาที่ Chicago สามารถเช็คได้ข้างล่าง อย่างตั๋วเครื่องบินแบบเที่ยวเดียวช่วงเดือนสิงหาคมจาก Atlanta to Chicago จะอยู่ที่ 61$ แต่ตั๋วเครื่องบินจาก San Francisco กลับ Atlanta จะแพงหน่อย ราคาจะอยู่ที่ 151$


หากใครอยากเที่ยวต่อ มีเวลาเหลืออีกนิดหน่อย แนะนำให้เช่ารถขับจาก San Francisco ไป LA ผ่าน Highway 1 รวมระยะทาง 454 miles ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเส้นทาง road trip ที่งดงามเป็นอันดับต้นๆ อเมริกา รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับบ้านเพียบ สามารถเช็คราคารถเช่าได้ ที่นี่ 


สำหรับคนที่สนใจการท่องเที่ยวด้วยรถไฟในอเมริกา สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.amtrakvacations.com