วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

แนะนำตัว

สวัสดีคะ ยินดีต้อนรับสู่ 108 พันเก้า เรื่องเล่าในอเมริกา บล็อกเรื่องเล่าสนุกๆ จากการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในอเมริกา นำเสนอเรื่องราวน่ารู้เพื่อเตรียมตัวก่อนย้ายมาอยู่อเมริกา พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำในการทำวีซ่า กรีนการ์ด เตรียมพร้อมด้านภาษาอังกฤษ หาที่เรียน ที่ทำงานในอเมริกา

ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ นันทพร คำยอด เรียกสั้นๆ ว่า นุ้ยนะคะ จะเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองยังไงดีละ ขอย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วก่อนย้ายมาอยู่อเมริกานะคะ

เราก็เป็นเหมือนเด็กคนอื่นๆ นี้แหละที่อยากรู้ อยากเห็น อยากไปท่องโลกกว้าง แต่ก็นะมีแค่ความอยาก แต่ไม่มีงบประมาณ ได้แต่มองหาโครงการไปเรียน ไปเที่ยวต่างประเทศแบบฟรีๆ มีแต่คนบอกว่าฝันลมๆ แล้งๆ มันไม่มีหรอก แต่ก็ไม่สนคะ อ่านข่าวอยู่เรื่อยๆ มีโครงการไหนเปิดรับสมัครก็ไป แต่ไม่ผ่านสักที เกือบจะท้อแล้วนะ อยู่ๆ พี่ทำงานด้วยกันก็มาบอกว่ากำลังหาคนไปทำงานที่สิงค์โปร์

ตอนนั้นปิดเทอมช่วงเรียนปี 2 จะขึ้นปี 3 ไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร หาเงินค่าเทอม แล้วพี่ที่ทำงานครัว แฟนเขาทำงานที่โรงแรมในตัวเมืองเชียงใหม่ บอกว่าทางโรงแรมหาพนักงานต้อนรับไปงาน Chiang Mai Food Festival in Singapore 2 อาทิตย์ ไปสิคะ รออะไรอะ

แต่มันก็ไม่ง่ายนะ เขาต้องสัมภาษณ์ก่อน แล้วต้องมีความรู้เรื่องอาหารไทยด้วย ต้องเตรียมชุดไทยไปเอง ต้องแต่งหน้าทำผมได้ ในใจก็กล้าๆ กลัวๆ นะ คือไม่พร้อมสักอย่าง ไม่เคยไปทำงานต่างประเทศเลย ความรู้อะไรก็ไม่มีเลย ดีหน่อยที่ได้ภาษา ถึงแม้จะไม่เก่ง สำเนียงไม่เป๊ะเวอร์ก็เถอะ แต่ก็พอสื่อสารได้ คิดกลับไปกลับมาอยู่นั่นแหละ เราไม่พร้อมนะ จะทำได้ดีเหรอ แต่อีกใจก็จะรอให้พร้อมแล้วเริ่มทำเหรอ ไม่ลงมือทำแล้วมันจะรู้ได้ไงว่าทำได้ไม่ได้ สับสนได้อยู่คืนหนึ่ง ความอยากไปมันมีมากกว่าความกลัว เลยชนะไป

พอตัดสินใจว่าจะทำละ รีบกลับบ้านนอกไปหาแม่ให้ช่วยหาชุดไทยให้ แต่แม่ก็หาได้แค่ชุดเดียว ก็ไม่พออีก เครื่องประดับก็ไม่มี เลยไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่โรงเรียนเก่า ขอยืมชุดไทยของนางรำที่โรงเรียนมาใส่ก่อน แล้วไปหาป้าข้างบ้านที่ทำร้านเสริมสวยให้ช่วยสอนแต่งหน้า ทำผมให้

ตอนนั้นจำได้ว่าเหนื่อยมาก ทำงานแทบทุกวัน เสร็จจากทำงานตอนกลางคืนก็หาหนังสืออาหารไทยมาอ่าน เปิดอินเตอร์เน็ตดูว่าพนักงานต้อนรับที่ต่างประเทศเขาต้อนรับลูกค้ายังไง พูดประโยคแบบไหน ก็ลองทำตามเขาดู พูดอยู่หน้ากระจกจนเพื่อนรูมเมทบอกว่าบ้าไปแล้ว แต่ก็บ้าจนผ่านสัมภาษณ์นะคะ 

ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก มันตื่นเต้นมาก ทำตัวไม่ถูก เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ยิ่งตอนโดนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรวจนะ มือมันสั่นไปหมด จนพี่ๆ คนอื่นๆ ต้องเข้ามาช่วย


สิงค์โปร์เป็นประเทศเล็กๆ ที่สะอาดมากๆ บ้านเมืองดูดี เป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้คนก็น่ารักเป็นกันเอง วันแรกที่เดินทางมาถึงโรงแรมที่จัดงาน ตื่นตะลึงในความสวย เกิดมาไม่เคยเข้าโรงแรมหรูๆ แบบนี้เลย

งานจัดขึ้นที่โรงแรมออร์คิด คันทรีคลับ (Orchid Country Club Hotel, Singapore) หน้าที่หลักๆ ที่ทำคือ พาแขกเดินชมงาน อธิบายอาหารแต่ละชนิดให้แขกที่มาร่วมงานฟัง และตอบคำถามแขก ส่วนใหญ่เป็นนักการทูต นักธุรกิจ และนักการเมือง งานนี้ได้มีโอกาสต้อนรับเอกอัครราชทูตไทยประจำสิงคโปร์ และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นายโก๊ะ จ๊กตง ถือเป็นโอกาสที่ดีมากในชีวืต

การทำงานที่สิงคโปร์ เจ้าภาพจัดงานต้อนรับดีมาก อำนวยความสะดวกในการทำงาน และจัดหาพนักงานโรงแรมมาคอยช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาฟิลิปปินส์ที่มาฝึกงานด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมที่สิงคโปร์ หล่อทุกคน ขยันทำงาน พูดเก่ง ใจดี ตอนแรกว่าจะได้แฟนกลับบ้านแล้ว แต่เขาบอกว่าแค่เพื่อนก็พอ เลยได้แค่มิตรภาพดีๆ

ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายเหมือนลิงปลอกกล้วยเข้าปากนะ คนสิงคโปร์ส่วนใหญ่พูดได้ทั้งจีนและอังกฤษ สำเนียงภาษาอังกฤษจะฟังยากมาก มีความยากระดับสิบ พูดเลย บางครั้งเราไม่รู้เลยว่าที่เขาพูดใส่หน้า เขาพยายามสื่อสารจีนหรืออังกฤษกันแน่ มันเหมือนกันมาก แต่พอเริ่มมีแฟน (ชอบเขาข้างเดียว) เป็นคนสิงคโปร์เท่านั้นแหละ เริ่มคุ้นเคยสำเนียงเลย จนบางครั้งก็พูดสำเนียงเขาไปเลย

ด้วยความที่เป็นคนสวย หลังจากเสร็จงานเจ้าภาพเลยพาท่องเที่ยวรอบเกาะสิงคโปร์ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญ เช่น เกาะเซ็นโตซ่า (Sentosa) รูปปั้นสิงโตพ่นน้ำ ตึกทุเรียน ไซน่าทาวน์ และแวะทานอาหารจีน

ทริปนี้ได้เงินไม่เยอะนะ แต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะได้อะไรที่มันมากกว่าเงิน ได้ประสบการณ์ทำงานที่เป็นแบบสากล ได้เพิ่มพูนทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ได้รู้จักเพื่อนชาวต่างชาติทั้งมาเลเซีย จีน และสิงคโปร์ ได้ฝึกใช้ชีวิตในต่างแดน ช่วยเหลือตนเอง และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ทำให้รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกเยอะ


ไม่รู้มีใครเคยเป็นเหมือนกันหรือเปล่า หลังที่ได้เที่ยวครั้งหนึ่งแล้ว มันหยุดไม่ได้ ใจมันเรียกร้องตลอดเวลาว่าต้องไปออกเที่ยวนะ ก็มองหาโครงการอื่นๆ อีก มันต้องมีสิ จนมาเจอ โครงการ Disney Summer Work Experience เขาชวนเด็กไทยไปทำงานที่สวนสนุกดิสนีย์ อเมริกา 3 เดือน ตาลุกวาวมาก คิดในในฉันต้องเป็นหนึ่งคนที่ได้ไปโครงการนี้

ความอยากมันเป็นพลังขับเคลื่อนทุกอย่าง จากที่ไม่พร้อมอะไรเลย พอมีพลังความอยาก ทุกข้อจำกัดมันจะหายไป มันจะสรรหาทุกวิธีทางทำตัวเองให้พร้อม กว่าจะผ่านมาได้ก็สะบักสบอมเหมือนกันนะ สัมภาษณ์หลายรอบมาก เจ้าหน้าที่ดูประสบการณ์การทำงานและทักษะภาษาอังกฤษเป็นหลัก พอผ่านแล้วก็ใช่ว่าจะดีใจแบบคนอื่นเขาได้นะ ไม่มีเงินค่าทำวีซ่ากับค่าตั๋วเครื่องบินอีก ต้องไปขอยืมญาติๆ มา ชีวิตมันไม่เคยมีอะไรง่ายๆ เลย แต่ก็ภูมิใจมากนะวันที่มายืนเหยียบแผ่นดินอเมริกา ประเทศที่เคยฝันไว้ว่าจะมาให้ได้สักครั้งในชีวิต



รอบนี้ได้ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ (Park Operation) ที่ Magic Kingdom, Walt Disney World Resort (WDW), Orlando, Florida, USA แล้วก็ได้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ รับหน้าที่คุมขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนดิสนีย์อีกด้วย (Parade Audience Control) 

ถือว่าโชคดีมากที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เพราะนอกจากจะได้มาเยือนดินแดนในฝันอย่างดิสนีย์  ได้พบเจอตัวการ์ตูนที่เคยดูในโทรทัศน์ ได้เล่นเครื่องเล่นสนุกๆ แบบฟรีๆ แล้ว ยังได้ฝึกงานกับองค์กรระดับโลก ซึ่งการทำงานมีคุณภาพ มาตราฐาน เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ ทำให้ได้ฝึกพัฒนาตนเองในหลายๆ ด้าน เช่น การตรงต่อเวลา การมีระเบียบวินัยในการทำงาน ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม การรู้จักพัฒนาตัวเอง พัฒนางานอยู่ตลอดเวลา การรักษาความสะอาดในการทำงาน การฝึกฝนการสื่อสารและให้บริการที่ดี การเรียนรู้ ยอมรับในความแตกต่าง ทั้งเรื่องเชื้อชาติและวัฒนธรรม และได้ฝึกความกล้าแสดงออก มีความมั่นใจในการทำงาน นอกจากนี้ยังได้รู้จักเพื่อนชาวต่างชาติจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เปรู, ชิลี, อังกฤษ, และนิวซีแลนด์ ทำให้ได้เพื่อนใหม่ ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ได้มิตรภาพดีๆ ความทรงจำที่สวยงามในชีวิต  

หลังจากโครงการนี้เสร็จก็เรียนจบพอดี พอไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้ว มันหาโครงการไปเมืองนอกแบบฟรีๆ ยากมาก แต่ใจมันก็ไม่หยุด ก็เลยคิดว่า เอาวะ มีงานทำแล้ว เก็บเงินไปเที่ยวละกัน ครั้นจะมาเที่ยวหรูหราแบบคนอื่น งบก็ไม่ถึงนะคะ เลยเอาเป็นแบกเป้เที่ยวละกัน แต่จะไปไหนละ กลัวอยู่นะ ผู้หญิงเดินทางคนเดียว

ไม่รู้กฏของแรงดึงดูดหรืออะไร เพื่อนจากโรมาเนียที่เคยรู้จักกันตอนเขามาแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกที่ไทยติดต่อมาพอดี ก็เลยคิดว่านี่ไงไปเยี่ยมเพื่อนสิ ไม่ต้องเที่ยวเอง แล้ว ประเทศโรมาเนีย (Romania) ค่าครองชีพก็ไม่สูงมาก แต่สวยและโรแมนติกไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรปเลย

โรมาเนียเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีคนไทยไปเที่ยวมาก ทำให้ไม่ค่อยมีข้อมูลด้านการท่องเที่ยวให้อ่าน คือต้องงมเองทุกอย่าง  ตั้งแต่วีซ่า จองตั๋วเครื่องบินราคาถูก หาโรงแรม หาที่เที่ยวเด็ดๆ

เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใด ไม่เท่าเราได้ชมด้วยตัวเอง ประเทศโรมาเนีย เป็นประเทศที่สวย มีเสน่ห์แบบหาคำบรรยายไม่ได้ เหมือนเราหลุดเข้าไปในนิยายสมัยโบราณ ในชนบทบนถนนยังมีรถม้า คนแก่ๆ ยังคงสวมใส่ชุดพื้นเมือง ข้างถนนยังมีสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยงามไว้รอรับแขกผู้มาเยือน การมาท่องเที่ยวครั้งนี้ทำให้ได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรก ได้เรียนรู้ภาษาโรมาเนีย วิถีชีวิต วัฒนธรรม  ได้ฝึกทำอาหาร และได้ฝึกร้องเพลงคริสมาต์เป็นภาษาโรมาเนีย  คือมันสนุก และประทับใจมากๆ นี้สินะที่เป็นการเรียนรู้จริงๆ แบบที่โรงเรียนไม่เคยสอน

จากนั้นพอว่างเมื่อไหร่ต้องแบกเป้เที่ยวคะ ในใจมีแต่แผนการท่องเที่ยว อยากไปทุกประเทศ โดยเฉพาะยุโรป หนุ่มๆ แถบนี้หล่อทุกคน จนคิดว่าอยากจะแต่งงานย้ายไปอยู่ซะเลย แต่ยังไงไม่รู้นะ ไปๆ มาๆ ได้แต่งงานกับหนุ่มอเมริกันแทน 

ปัจจุบันลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็คิดว่าไม่ย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้วละ เพราะชอบที่นี่มาก อากาศดี คล้ายๆ กับที่ไทย ผู้คนก็น่ารัก  คุณภาพชีวิตก็ดี ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว

ตอนย้ายมาอยู่ที่นี่ช่วงแรก ข้อมูลการเตรียมตัวต่างๆ ยังมีไม่มาก ทำให้การใช้ชีวิตที่นี่ยากพอสมควร คิดไว้ในใจตลอดว่าพอตัวเองมีความรู้มากพอ มีประสบการณ์เยอะๆ จะเอาข้อมูลมาแบ่งปันคนอื่นบ้าง ก็เลยเป็นที่มาของการทำ Blog นี้ขึ้นมา

นอกจากเรื่องราวดีๆ ที่เอามาแบ่งปันแล้ว ก็ยินดีให้คำแนะนำ ปรึกษา และช่วยเหลือในการหาข้อมูลด้านการทำวีซ่า หาตั๋วเครื่องบิน วางแผนเก็บเงิน เตรียมพร้อมด้านภาษาอังกฤษ การหาที่เรียน ที่ทำงาน หาข้อมูลการใช้ชีวิตในต่างแดน  หากใครมีคำถามก็ฝากไว้เลยนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน หากต้องการเสนอแนะ ติชม วิจารณ์ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สามารถติดต่อได้ที่  http://facebook.com/nantaporn.kumyod และ nantapornv@gmail.com



33 ความคิดเห็น:

  1. โอ๊ะ เจอบล็อคโดยบังเอิญ คิดถึงเธอมากเลยจ้านุ้ย ....วาว :)

    ตอบลบ
  2. เพื่อนสาวคิดถึงเช่นกัน

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ8 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:30

    สวัสดีค่ะ คุณนุ้ย เราชื่อนุชนะคะ ได้เข้ามาอ่านเรื่องการเตรียมเอกสารขอกรีนการ์ด มีแผนจะไปอเมริกาเพื่อแต่งงานกับแฟนชาวอเมริกันกลางปีหน้า จะไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยว
    อยากทราบว่าการตรวจสุขภาพควรตรวจที่เมืองไทยเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายมั้ยคะ หรือต้องใช้แพทย์ที่นู่นเท่านั้น
    และจำิเป็นต้องขอใบรับรองความประพฤติจาำกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมั้ยคะ จะรอคำตอบค่ะ สวัสดีค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. การตรวจสุขภาพ ตรวจที่ไทยก็ได้คะ หรือมาตรวจที่อเมริกาก็ได้นะคะ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าขอวีซ่าแบบวีซ่าคู่หมั้นหรือวีซ่าแต่งงาน ต้องตรวจที่ไทยอยู่ดีคะ เพราะต้องยื่นตอนทำวีซ่าคะ ส่วนใบรับรองความประพฤติ ถ้าวีซ่าท่องเที่ยวไม่ต้องขอคะ แต่ถ้าวีซ่าคู่หมั้นหรือแต่งงานต้องขอด้วยคะ

      ถ้าจะมาแต่งงานที่นี่ นุ้ยแนะนำให้ทำวีซ่าคู่หมั้นหรือแต่งงานดีกว่านะคะ ถ้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว แล้วแต่งงานที่นี่ กรีนการ์ดจะได้ยากมากๆ เลยคะ หรืออาจไม่ผ่านเลยนะคะ

      อ่านเพิ่มเติมที่นี่นะคะ

      http://www.usvisa4thai.com/fiance.php
      http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=11910
      http://www.weddingsquare.com/forum_posts.asp?TID=67870
      http://www.cmprice.com/market/category_detail.php?cate_id=183502357

      มีอะไรก็ปรึกษาได้ตลอดนะคะ

      ลบ
  4. ขอบคุณมากค่ะคุณนุ้ย ที่สละเวลาตอบคำถามให้ อาจจะรบกวนถามอีกนะคะ อ้อ! ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ นุชค่ะ เพิ่งตั้งชื่อว่า นุช Florida แฟนอยู่ห่างจาก Orlando 2 ชั่วโมงค่ะ ได้ดูรูปที่คุณไปทำงานและเที่ยวที่ Disney ดูสนุกและมีความสุขมาก วันนึงจะไปเที่ยว Disney บ้าง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยินดีที่ได้รู้จักคะ ออลันโด้เป็นเมืองต่างอากาศ สวยมากคะ มีที่เที่ยวเยอะมาก นุ้ยไปทุกปีคะ รัฐที่นุ้ยอยู่ห่างจากออลันโด้แค่เจ็ดชั่วโมงเองคะ ถ้าถึงอเมริกาแล้วอย่าลืมบอกนะคะ เผื่อได้นัดเจอกันคะ

      ลบ
  5. โอ้โห ไปทุกปีเลยเหรอ เชื่อแล้วว่าชอบออลันโด้มาก แอตแลนตาเป็นยังไงคะ หนาวมั้ย ได้แต่แวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อต่อไป แทมป้า ยังไมเคยมีโอกาสแวะเที่ยว นุชไปหาแฟนและพ่อแม่แฟนมาแล้ว 2 ครั้งค่ะ ก.พ.-เม.ษ. ปีนี้ และเมื่อปี 2011 เป็นเวลา 2 เดือน แต่เราไม่ค่อยมีโอกาสเที่ยวมากนัก เพราะต้องเก็บตังค์เผื่อยามจำเป็น ยังไงก็โชคดีที่ได้ไปที่นู่น และลองใช้เวลากับอเมริกา แฟนและพ่อแม่ ถ้าไปอยู่จริง ๆ ก็ต้องหัดขับรถให้เป็น ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับนุช เมืองที่อยู่ชื่อ Zephyrhills 1 ชั่วโมงจาก Tampa Airport ซัมเมอร์นี้ไปเที่ยวไหนคะ อ้อคุณนุ้ยอยู่เมกานานรึยัง นุชบ้านอยู่กรุงเทพค่ะ ถ้ากลับมาเที่ยว บอกด้วยนะ เผื่อนัดเจอกันค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นุ้ยมาอยู่นี่ได้แค่สี่ปีเองคะ แต่งงานแล้วก็ย้ายมาอยู่กับสามี ไปเที่ยวออนลันโด้ทุกปี ไปเยี่ยมเพื่อน และพาลูกไปเที่ยวดิสนีย์คะ

      แอตแลนต้าอากาศดีมากคะ แต่ช่วงนี้ฝนตกคะ ช่วงฤดูหนาว หนาวจับใจมากคะ แต่ไม่ได้หนาวถึงกับมีหิมะเหมือนทางตอนเหนือ

      นุ้ยเพิ่งกลับจากไทยคะ ไปอีกทีปีหน้าเลยคะ เดี๋ยวถ้านุ้ยใกล้ๆ จะไป จะบอกอีกทีนะคะ มีเฟสบุ๊คะเปล่าคะ จะได้คุยกันง่ายหน่อย

      ส่วนเรื่องขับรถ นี่นุ้ยสนับสนุนมากคะ ที่นี่ขับรถไม่เป็นเหมือนเด็กเลย ไปไหนก็ไม่ได้ ต้องรอสามีไปส่ง นุ้ยเพิ่งมาหัดตอนมาอยู่ที่นี่แหละคะ กว่าจะได้ไปไหนเอง ถ้าขับจากไทย ก็มาฝึกขับที่นี่อีกนิดหน่อย แรกๆ อาจสับสนเรื่องเลนถนน เพราะที่นี่ขับด้านขวา บ้านเราขับด้านซ้าย ขับไปสักอาทิตย์ก็ชินคะ

      ลบ
  6. สวัสดีอีกครั้งค่ะ facebook มีค่ะ เดี๋ยวจะ add ไป ..... ok add แล้ว facebook นุชชื่อ Nuch Soon เพิ่งเริ่มเล่้นเมื่อไม่นานนี้ ส่วนใหญ่ใช้แต่ skype กับ email ช่วงนี้ฝนตกเยอะที่นี่เหมือนกัน รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

    ตอบลบ
  7. สวัสดีค่ะ คุูณนุ้ย
    ชื่อ นัท ค่ะ เห็นคุณนุ้ย แชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ อยากจะรบกวนขอคำแนะนำการทำหนังสือรับรองการทำงานจากร้านอาหารไทย เพื่อยื่นวีซ่าทำงาน แคนาดา ค่ะ ไม่เก่งภาษา เลยได้คัดลอกตัวอย่างหนังสือรับรองการทำงานที่คุณนุ้ย ทำไว้ เลยขอรบกวนคุูณนุ้ย ช่วยตรวจดูว่าใช้ได้หรือเปล่าค่ะ ยังไงต้องขอขอบคุณคุณนุ้ย ที่แบ่งปันประสบการณ์ ทำให้มีความหวังขึ้นมา เพราะยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลยค่ะ นี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ


    December 25, 2011

    Thai Food Restaurant
    89/1 Soiwatsukhantharam
    Rama V Road Suan Chittralada
    Khet Dusit,
    Bangkok 10300
    Thailand

    To Whom It May Concern,

    This is to certify that Miss ……………………….. has been employee by Thai Food Restaurant 89/1 Soiwatsukhantharam Rama V Road Suan Chittralada Khet Dusit, Bangkok 10300 Thailand She has joined as our staff since May 1, 2010 to September 30, 2011. She is now holding the position of Thai Cook. Her monthly salary is 12,000 Baht.


    Sincerely yours,




    (Miss…………………)
    Managing and Own Business
    December 25, 2011

    ตอบลบ
  8. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  9. สวัสดีค่ะ พี่นุ้ย คือหนูกำลังเรียนอยู่ม.6ค่ะ จบม.6ก็อยากไปต่างประเทศ อยากไปทำงานเก็บเงิน ถ้ามีเงินพอก็จะเรียน แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ค่ะ กลัวนิดๆ เพราะยังหาคนที่รู้จักไม่ได้ ขอคำแนะนำจากพี่ได้ไหมค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
    จาก นุ๊กนิก :)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เข้ามหาวิทยาลัยแล้วค่อยไปก็ได้นะคะ มีโครงการเยอะมากๆ สำหรับเด็กที่เรียนมหาวิทยาลัยคะ ลองเข้าไปดูที่นี่นะคะ

      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_19.html

      ลบ
  10. สวัสดีค่ะน้องนุ้ย
    รบกวนอีกครั้งนะคะหลังจากที่ปรึกษาเรื่องวีซ่าแล้ว ตกลงพี่กรอกds160ว่ามีญาติอยู่ LAและกรอกเบอร์โทรพร้อมที่อยู่ของญาติ และบอกเรื่องสปอนเซอร์ว่าพี่ออกค่าใช้จ่ายเอง (บอกตามจริง) ตกลงพี่ได้วีซ่า 10 ปี ที่น่าเป็นห่วงคือลูกชายกำลังจบ ม.6พอดี แต่ก็ okค่ะ ลูกก็ได้ 10ปี เหมือนกัน ดีใจมากค่ะ
    ตอนนี้มีเรื่องกลุ้มใจอีกค่ะ ปัญหาคือ
    1. กลัวต่อเครื่องไม่ถูก
    2. พี่กับลูกพูดอังกฤษไม่ค่อยได้
    3.เกรงใจญาติ พี่จะหอบของกินไปเยอะๆไม่รู้ว่าอะไรได้บ้าง นมดีน่าถั่วเหลืองได้มั้ย
    5.**ที่สำคัญหากซื้อตั๋วไปกันเองกลัวตอบ ตม. ไม่รู้เรื่อง แล้วเค้าจะส่งเรากลับไทยมั้ยคะ
    6.ซื้อตั๋วไปเองกลัวญาติจะพาไปเที่ยวจะสนุกเหมือนทัวร์มั้ย(เค้าชวนพี่ไปแล้วจะพาไปเที่ยว)
    7.ทัวร์ก็แพงมาก 8หมื่น-แสนกว่า/คน .ลูกบอกไปทั้งทีอยากไปให้นานๆจะได้คุ้ม
    ?????ตอนนี้ความคิดมันเลยวุ่นวายและกลายเป็นความเครียดไม่สนุกเหมือนเที่ยวทุกครั้ง
    รบกวนอีกครั้งนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณพี่ต่อเครื่องที่ไหนบ้างคะ ต่อกี่ครั้ง จริงๆ ไม่ยากเลยคะ ดูเครื่องหมาย Transit เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ คะ เครื่องบินจากไทยไปต่อเครื่อง พนักงานต้อนรับพูดภาษาไทยได้อยู่คะ แต่จากนั้นไปพูดภาษาอังกฤษคะ เราก็เตรียมซื้อหนังสือสนทนาภาษาอักกฤษเบื้องต้นเพื่อการท่องเที่ยวไว้คะ มีอะไรก็เปิดดูในหนังสือเอา ไม่ยากคะ

      นมถั่วเหลืองนี่เอาใส่กระเป๋าใส่ท้องเครือ่งได้คะ แต่เอาขึ้นเครื่องไม่ได้คะ

      ตอนตม. นี่คุณพี่ต้องพยายามตอบคำถามดีๆ นะคะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ดุ ถ้าเราตอบไม่รู้เรื่องเขาจะส่งกลับได้คะ บางคนก็ใจดี พยายามช่วยเรา บางสนามบิน เขามีเจ้าหน้าที่แปลภาษามาคุยกับเราคะ มีเจ้าหน้าที่คนไทยมาช่วย

      เที่ยวเองสนุกว่าเที่ยวกับทัวร์คะ เราเปลี่ยนแปลงได้ จัดตารางไปที่ที่เราชอบได้

      มีอะไรก็ปรึกษาได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องสถานที่ท่องเที่้ยว ซื้อหนังสือทัวร์มาอ่านเลยคะ แอลเอที่เที่ยวเยอะคะ คนไทยก็เยอะ ไม่ต้องกังวลคะ

      ลบ
  11. ขอบคุณน้องนุ้ยมากเลยค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆ พี่ตกลงไม่ไปกับทัวร์(เกิดเสียดายเงินขึ้นมาค่ะ)
    พี่สาวแนะนำการบินไทยบินตรงกรุงเทพ – LA 47,000
    เพื่อนแนะนำ EVA AIR 36,000 ต่อเครื่องที่ไต้หวัน ไปLA ต่อครั้งเดียว
    เรื่อง ตม. พี่จะบอกเค้าว่ามาเที่ยวและเยี่ยมญาติ อยู่ 15 วัน พักบ้านญาติและให้ที่อยู่และแสดงตั๋วขากลับ ถ้าไม่รู้เรื่องจริงๆจะให้เบอร์ญาติแล้วให้ญาติคุยให้ ได้มั้ยคะ
    **พี่ว่าจะซื้อTalking Dicเป็นตัวช่วยค่ะ
    ที่สำคัญพี่ไม่ค่อยสนิทกับญาติมากนักพี่ไปอยู่ 15 วัน อยากจะช่วยตัวเองบ้างเรื่องอาหารการกิน
    พี่คิดว่าจะเอามาม่าคัฟได้มั้ย หรือว่าต้องเป็นซองเท่านั้น ทราบว่าเนื้อสัตว์ทุกชนิด ผัก ผลไม้ทุกชนิดไม่ได้ แล้วถ้าคุ้กกี้ ขนมปังกรอบ กล้วยตาก ปลากระป๋อง จำพวกน้ำพริก ซอสมะเขือเทศ ซอสแม้กกี้ได้มั้ย
    ของฝากเป็นผ้าไหมเอาไปได้มั้ย
    ขอบคุณมากค่ะ จากพี่แดง เชียงรายค่ะ ☺

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณพี่ซื้อ Talking Dic ไปด้วย ดีมากเลยคะ ช่วยได้เยอะเลยคะ

      ส่วนเรื่องอาหารการกิน ซอสมะเขือเทศ กับแมกกี้ที่อเมริกามีคะ คุณพี่ไม่ต้องพกมาก็ได้คะ น้ำพริกนี่บางอย่างก็ห้ามเข้านะคะ ส่วนคุกกี้ ขนมปัง กล้วยตาก และปลากระป๋อง มาม่า เอามาได้เลยคะ แต่ต้องใส่กระเป๋าโหลดใต้เครื่องนะคะ ขึั้นเครื่องไม่ได้คะ

      ส่วนผ้าไหมเอามาได้เลยคะ แต่อย่าเอามาเยอะนะคะ เจ้าหน้าที่อาจตรวจกระเป๋าและคิดว่าเราเอามาขายคะ

      ลบ
  12. สวัสดีค่ะน้องนุ้ย ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
    ต่อเครื่องที่เดียวค่ะถ้าEVAต่อที่ไต้หวัน ถ้าเกาหลีต่ออินชอน
    แต่การบินไทยไม่ต้องต่อแต่แพงกว่าที่อื่นไป 1 หมื่น/คนค่ะ
    พี่จะพยายามศึกษาตามที่น้องแนะนำนะคะ
    **พี่ดูรูปน้องนุ้ยมีน้องสาวชื่อน้องฟ้ารึเปล่าคะ??
    เค้าไปเที่ยวแล้วลงรูปบรรยายภาพดูไปก็เพลินตาม
    หน้าตาคล้ายกันค่ะ☺

    แล้วพี่จะมาคุยอีกนะคะ สวัสดีค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณพี่ไปของ EVA ก็ได้นะคะ บริการดีมากคะ มีคนพูดภาษาไทยได้ด้วยคะ คุณพี่ไม่ต้องกังวลคะ คุณพี่จะได้ประหยัดเงิน เอาไว้ซื้อของฝาก ของใช้ได้คะ

      ลบ
  13. สวัวดีค่ะ ^ คือนู๋ต้องไปต่างประเทศในวันพฤหัสนี้แต่ยังไม่ได้ทำพาสปอร์ต
    และพึ่งอายุ 16 ปี นู๋มีพ่อแม่ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน (พ่อแม่ทำงานต่างจังหวัด)
    อยากจะถามว่า เอาป้าไปได้ หรือป่าว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ทำได้คะ แต่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากพ่อแม่ อ่านเพิ่มเติมในนี้นะคะ

      http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=7d2d42475a7838b4

      ลบ
  14. สวัสดีค่ะหนูมีเรื่องจะรบกวนถามค่ะคือว่าหนูจบ ม6 อายุ 28 ปีตอนนี้ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหนูได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ไปสมัครงานบนเรือแต่หนูกลัวเรื่องภาษาอังกฤษมากจะทำยังไงดีค่ะพอจะมีที่ติวก่อนสัมภาษบ่างไหมค่ะแบบเสียค่าใช้จ่ายก็ได้ค่ะอยากไปสัมภาษแบบมั่นใจเพราะไม่อยากเสียโอกาสค่ะ รบกวนช่วยแนะนำหนูด้วยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ควรเรียนเพิ่มเติมคะ ตอนนี้อยู่กรุงเทพหรือที่ไหนคะ จะได้แนะนำที่เรียนถูกคะ ก่อนสมัครงาน จะมีการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษคะ และมีแบบทดสอบภาษาให้ทำ ภาษาจะต้องแน่นพอสมควรคะ

      ลบ
  15. สวัสดีค่ะคุณ Nantapornv อยากถามว่า แฟนจะให้ไปเที่ยวพร้อมกันที่ฟินแลนด์ ถ้าเค้ามาช่วงกันยายน 2557 นี้ แต่ว่าตัวเค้าเองยังไม่เข้าใจการเขียนจดหมายเชิญ เค้าต้องทำอย่างไรบ้างและส่งเอกสารอะไรแนบมาให้เราบ้างคะ เค้าต้องไปติดต่อขอใบเขียนจดหมายเชิญจากที่ไหนคะ แล้วถ้าเค้าส่งมาตอนนี้เราจะยื่นเรื่องทันไหมคะ และมีคำถามเพิ่มค่ะ ถ้าเค้าเป็นคนจ่ายทุกอย่างให้เรา เราต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างคะ เครียดจังเลยค่ะกลัวไม่ได้ไปพร้อมกัน ฝากคำถามด้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ พี่พิมค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตัวอย่างจดหมายเชิญดูได้ที่นี่เลยคะ
      http://ready2gointer.blogspot.com/2012/03/blog-post_906.html

      ส่งทางไปรษณีย์มาพร้อมกับสำเนาพาสปอร์ต สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคะ หากเขาเป็นสปอนเซอร์ให้ด้วยต้องแนบเอกสารรับรองการทำงาน และเอกสารทางการเงิน และจดหมายที่รับรองว่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดคะ

      ลบ
  16. สวัสดีค่ะ คุณนุ้ย วันนี้มีเรื่องทุกข์ใจอีกแล้ว มีเรื่องรบกวนจะมาถาม
    พอดีอยากทำ passport iceland ให้ลูกสาว อายุ ขวบครึ่ง
    ดิฉันกับแฟนยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ดิฉันต้องเตรียมเอกสารใดบ้างค่ะ ดิฉันสามารถเดินเรื่องเองได้มั้ย แฟนทำงานอยุ่ ปท. เค้า และเค้าได้ส่งหนังสือยิมยอมว่าให้ลูกสาวสามารถ ทำพาส ไอซ์แลนด์ ซึ่งเปนเอกสารที่เค้าทำขึ้นเอง
    เอกสารตัวนี้ สามารถใช้ในการขอ พาสให่ลูกได้มั้ยค่ะ
    ดิฉัน ดูในเว็บ บางคน ก้อบอกว่าต้องรับรองบุตร และต่องตรวจ เลือด จิงๆ แล้วต้องตรวจหรือเป่าค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ต้องมีหนังสือรับรองบุตรคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่นะคะ http://www.scblu.com/?p=512

      ลบ
  17. ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ สำหรับ คำแนะนำดี ๆ ขอให้คุณนุ้ย สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ

    ตอบลบ
  18. สวัสดีค่ะ ได้มีโอกาศเข้ามาอ่านบล๊อกแล้วรู้สึกชอบมาก ส่วนตัวอยากปรึกษาเรื่องการทำวีซ่าออสเตรเลีย คือจะไปเที่ยวที่ออสเตรเลียประมาณ 6 วันค่ะ(พอดีซื้อตั๋วเครื่องบินได้ในราคาพิเศษ) บัญชีเงินเดือนดิฉันมีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีประมาณสามแสนค่ะ แต่บัญชีของสามีแต่ละเดือนแทบไม่มีเหลือเลย เราแต่งงานกันโดยมีการจัดงานแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ปัจจุบันอยู่ด้วยกัน แต่ทะเบียนบ้านชื่ออยู่คนละหลัง แบบนี้โอกาสในการยื่นขอวีซ่าจะผ่านมั้ยคะ ต้องทำยังไงให้ผ่าน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หากมีเงินในบัญชีเพียงพอ และมีเอกสารการลางาน เอกสารรรับรองการทำงาน ผ่านไม่ยากเลยคะ ตอนยื่นวีซ่าแนบเอกสารการสมรสไปด้วยคะ จะทำให้วีซ่าผ่านง่ายขึ้นคะ (ง่ายกว่าคนโสด) ใช้บัญชีเงินของตัวเองยื่นได้เลยคะ

      ลบ
  19. มาตามอ่าน อีกรอบค่ะ เมื่อกี้ อ่านไม่จบ เขียน ได้น่าติดตาม มาก ขอชื่นชม ค่ะ

    พี่ Lee

    ตอบลบ